ครบรอบ 18 ปี เหตุการณ์โศกนาฎกรรมวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2001 หรือ 9/11 ที่คนร้ายขับเครื่องบินพุ่งชนตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความสูญเสียในประเทศสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก และตอนนี้ แม้เหตุการณ์จะกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์ แต่ประเทศก็ยังต้องสอนเรื่องนี้ให้เด็กๆ รับรู้ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาที่ได้วิเคราะห์ว่า โรงเรียนต่างๆ สอนนักเรียนอย่างไรในเรื่องนี้
ในสหรัฐฯ ไม่ได้มี ‘แนวทางระดับชาติ’ ที่แต่ละโรงเรียนต้องปฏิบัติตามในการสอน ดังนั้นหัวข้อและบทเรียนก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณครูหรือเขตการศึกษา
Jeremy Stoddard ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน ได้เผยแพร่การศึกษา ที่สำรวจครูในโรงเรียนมัธยมต้น-ปลายจำนวน 1,047 คนในสหรัฐฯ และพบว่า วิธีการสอนที่เป็นที่นิยมที่สุด คือ 1.) เปิดสารคดีหรือวิดีโอให้ดู 2.) พูดคุยโดยเชื่อมโยงกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบัน และ 3.) แบ่งปันเรื่องราว และประสบการณ์ของตนเองในเหตุการณ์นี้
Stoddard ยังกล่าวว่า ครูอายุน้อยมีแนวโน้มจะทำให้เด็กๆ รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เพื่อทำความเข้าใจกับความตกใจ และความหวาดกลัวที่ผู้คนรู้สึกในวันนั้น
การศึกษายังสำรวจตำราและแหล่งข้อมูลในชั้นเรียนด้วยว่า เมื่อเวลาผ่านไป หนังสือเรียนแต่ละเวอร์ชั่นได้อธิบายเหตุการณ์อย่างไร โดยพบว่า มีหนังสือเรียนเพียง 4 จาก 9 เล่มที่กล่าวถึงสงครามในอิรักว่า เป็นผลที่ตามมาของเหตุการณ์ 9/11 และมีเพียงหนังสือเรียนเล่มเดียวที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ.2005 ที่ระบุว่า ยังไม่พบอาวุธทำลายล้างสูง (Weapon of Mass Destruction – WMD) ในอิรัก ทั้งหนังสือเรียนฉบับปี ค.ศ.2010 ก็ได้ลบประโยคเกี่ยวกับ อาวุธทำลายล้างสูง และเมื่อเวลาผ่านไปหนังสือก็ได้ตัดคำอธิบายเหตุการณ์โจมตีให้สั้นลง และบางเล่มตัดรายละเอียดการบาดเจ็บและเสียชีวิตในเหตุการณ์ด้วย
รัฐเวอร์จิเนียได้กำหนดมาตรฐานการเรียนการสอนเกี่ยวกับ 9/11 ไว้ว่า ครูต้องสอนให้นักเรียนสามารถอธิบาย ‘การเปลี่ยนแปลงของนโยบายต่างประเทศ และบทบาทของสหรัฐฯ ในโลกที่เผชิญกับการก่อการร้ายระหว่างประเทศโดยเน้นการตอบสนองของชาวอเมริกันต่อเหตุ 9/11’ ซึ่งแม้จะไม่มีการสอบ แต่ Jarrett Hatcher อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐนี้ ก็มองว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญต่อการเข้าใจโลก การโจมตี และผลที่ตามมาด้วย
ครูหลายคน มองว่านักเรียนเรียนรู้เรื่องราวของ 9/11 ใกล้เคียงกับที่ผู้ใหญ่เองเรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างการทิ้งระเบิดที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หรือ WWII คือรู้ข้อเท็จจริง แต่ไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มากับโศกนาฏกรรม วิธีการสอนจึงมีแตกต่างกัน ครูบางคนก็มุ่นเน้นไปที่ความรักชาติ และหน้าที่พลเมือง
Seth Davis ครูโรงเรียน Wilson Middle School ในรัฐเวอร์จีเนีย กล่าวว่า “เราต้องเปลี่ยนกระบวนทัศน์ มีช่วงเวลาที่คุณสามารถจดจำไว้ และนี่คือประวัติศาสตร์ของลูกหลานของเรา”
อ้างอิงจาก
https://time.com/5672103/9-11-history-curriculum/
#Brief #TheMATTER