ครม. มีมติเห็นชอบ หญิงอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ทำแท้งได้

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเรื่องกฎหมายการทำแท้งว่า รัฐบาลเห็นชอบปรับแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาความผิดฐานทำให้แท้งลูก ประกอบด้วย มาตรา 301 และมาตรา 305 หลังจากมีข้อวินิจฉัยตามศาลรัฐธรรมนูญว่า การห้ามการทำแท้งนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 ที่ระบุว่า บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน และมาตรา 28 ว่า บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย

โดย ครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานร่วมรับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว โดยถ้าหากการแก้ไขกฎหมายไม่สามารถทำสำเร็จได้ภายในเวลา 1 ปี นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 คำวินิจฉัยที่ว่าการทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในทันที

การแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา 301 นั้น ว่าด้วย การกำหนดอายุครรภ์ที่สามารถทำแท้งได้ไม่เกิน 12 สัปดาห์ เป็นไปตามความเห็นของแพทยสภาและราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่ปลอดภัยที่สุดของหญิงผู้ที่ประสงค์จะทำแท้ง อีกทั้งไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้หญิงผู้ทำแท้งเกิดอาการแทรกซ้อนและเป็นอันตรายแก่ชีวิต นอกจากนี้ได้มีการแก้ไขลดอัตราโทษเพื่อให้เหมาะสมกับการที่ผู้ทำแท้งต้องได้รับความเจ็บปวดทางร่างกายอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดโทษสูงอีก

ส่วนในมาตรา 305 ได้แก้ไขเพิ่มเติมข้อยกเว้น อันเป็นเหตุให้การทำแท้งมีความผิด โดยแก้ไขให้ครอบคลุมกรณีจำเป็นและสมควรต้องทำแท้ง หรือยุติการตั้งครรภ์ให้กับหญิง ได้แก่ จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายต่อสุขภาพทางกาย หรือจิตใจของหญิงนั้น จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากหากทารกคลอดออกมาจะมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะได้รับผลกระทบจากความผิดปกติทางกายหรือจิตใจถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง หญิงมีครรภ์เนื่องจากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือหญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์

อ้างอิงจาก