หนึ่งในโมเมนต์ที่น่าจดจำของทุกคนบนโลก โดยเฉพาะชาวสหรัฐฯ คือ ครั้งที่ นีล อาร์มสตรอง สวมใส่ชุดนักบินอวกาศเหยียบดวงจันทร์ และปักธงชาติสหรัฐฯ ให้นิ่งงันท่ามกลางฟ้ามืดมิดเมื่อปี 1969 ซึ่งนั่นนับว่าเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีการปักธงชาติลงบนพื้นผิวดวงจันทร์
แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ภาพถ่ายจากยาน Chang’e-5 ยืนยันว่าจีนได้กลายเป็นประเทศที่สองในโลกที่นำธงชาติขึ้นไปปักบนพื้นผิวดวงจันทร์สำเร็จ
ปฏิบัติการนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนส่งยานอวกาศ Chang’e-5 ที่มีชื่อตามเทพแห่งดวงจันทร์ ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ (24 พฤศจิกายน) เพื่อทำการลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ (1 ธันวาคม) และเก็บตัวอย่างก้อนหินและดินเพื่อกลับมาทำการวิเคราะห์บนโลก
โดยทางการจีนมีแผนจะเก็บตัวอย่างจำนวน 2 กิโลกรัม จากพื้นที่ Oceanus Procellarum หรือ มหาสมุทรแห่งพายุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยมีการสำรวจ และอุดมไปด้วยลาวาที่แข็งตัว เพื่อทำการวิจัยหาสาเหตุการเกิดดวงจันทร์ และวัฎจักรการทำงานของภูเขาไฟบนดวงจันทร์
ทั้งนี้ จีนจะทำการส่งตัวอย่างมาในแคปซูลซึ่งจะลงจอดในตอนเหนือของเขตมองโกเลียใน ภายในเดือนนี้ และถ้าสำเร็จ จีนจะกลายเป็นประเทศที่สาม รองจาก สหรัฐฯ และรัสเซีย ที่สามารถเก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับมาสู่โลกได้ โดยปฏิบัติการณ์ครั้งล่าสุดคือ ลูน่า 24 (Luna 24) ของสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1976
ภายใต้นโยบาย ‘space dream’ ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จีนวางแผนที่จะสร้างสถานีอวกาศขึ้นบนดวงจันทร์ให้สำเร็จภายในปี 2022 โดยก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2019 จีนก็ได้ส่งยานสำรวจดวงจันทร์ขึ้นไปท่องบนดวงจันทร์มาแล้วครั้งหนึ่ง
อ้างอิง:
https://www.theguardian.com/science/2020/dec/01/china-moon-rocks-change-5-spacecraft
https://nypost.com/2020/12/04/china-plants-its-flag-on-moon-before-return-trip-to-earth/
#Brief #TheMATTER