ถึงจะมีตัวอย่างให้เห็นว่าชาวเอเชียไม่ได้ผมดำกันทุกคน แต่ดูเหมือนแนวคิดเหมารวมว่าคนเอเชียทุกคนต้องมีผมสีดำสนิทจะมีอิทธิพลมากกว่าที่คิด และการเหมารวมนี้เองทำให้เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีโด่งดัง หลังนักเรียนคนหนึ่งถูกครูบังคับให้ย้อมผมดำซ้ำๆ เพราะไม่เชื่อว่าผมธรรมชาติของเธอเป็นสีน้ำตาล
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี ค.ศ.2015 เด็กสาววัย 18 ปี (ในเวลานั้น) ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดไคฟุคัง ในเมืองฮาบิกิโนะ จังหวัดโอซากา เธอเปิดเผยว่าระหว่างอยู่ที่โรงเรียน เธอถูกครูหลายคนบังคับให้ย้อมผมสีดำซ้ำๆ เพียงเพราะผมธรรมชาติของเธอเป็นสีน้ำตาล และแม้เธอจะยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่ครูก็ยังกล่าวหาว่าเธอโกหก เนื่องจากโคนผมเป็นสีดำ
วัยรุ่นคนดังกล่าวเปิดเผยว่า คุณครูในโรงเรียนบอกกับเธอว่า “ถ้าไม่ยอมย้อมผมให้เป็นสีดำ ก็ไม่จำเป็นต้องมาเรียนอีกต่อไป” ด้วยความกดดัน และความไม่สบายใจต่างๆ ทำให้เธอตัดสินใจหยุดเข้าเรียน และจากนั้นทางโรงเรียนก็ได้ลบชื่อเธอออกจากผังที่นั่งในโรงเรียน และบัญชีรายชื่อนักเรียน
หลังจากโดนปฏิบัติไม่เป็นธรรม หญิงสาวจึงตัดสินใจฟ้องศาลในปี ค.ศ.2017 โดยยื่นขอเงินชดเชยจากความเสียหายในการสูญเสียโอกาส 2.2 ล้านเยน หรือประมาณ 640,000 บาท หลังการการพิจารณาคดีกว่า 4 ปี เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2021 ศาลแขวงโอซากา ได้ตัดสินว่า ไม่มีฝ่ายใดชนะคดี เนื่องจากทั้งสองฝั่งต่างมีเหตุผลที่สมเหตุสมผล
โนริโกะ โยโกตะ (Noriko Yokota) ผู้พิพากษาคดีเปิดเผยว่า โรงเรียนมีข้อกำหนด และกฎเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานในการสร้างระเบียบให้เกิดขึ้นในโรงเรียน และกฎเรื่องสีผมนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดในการรักษาระเบียบวินัยของนักเรียน ดังนั้นการออกคำสั่งใดๆ จึงอยู่ในดุลยพินิจของโรงเรียน อย่างไรก็ตาม โยโกตะ กล่าวว่าโรงเรียนก็ไม่สามารถบังคับให้นักเรียนย้อมผมเป็นสีดำได้ ในเมื่อเธอไม่ได้มีเจตนาปฏิบัติตนผิดระเบียบ
แม้การตัดสินเบื้องต้นจะไม่ระบุว่าฝั่งใดเป็นผู้ชนะคดี แต่ศาลตัดสินให้การกระทำของบุคคลากรโรงเรียน ทั้งเรื่องการบังคับทำสีผม การสั่งให้เด็กนักเรียนหยุดเข้าเรียน รวมถึงลบชื่อออกจากบัญชีนักเรียนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ จึงได้สั่งให้จังหวัดโอซากาจ่ายให้เสียให้ให้กับนักเรียนคนดังกล่าวจำนวน 330,000 เยน หรือประมาณ 9.3 หมื่นบาท
คำตัดสินเบื้องต้นของศาลทำให้หลายฝ่ายไม่พอใจ เนื่องจากไม่มีการกล่าวโทษคุณครูที่จงใจละเมิดสิทธิพื้นฐานของนักเรียน อีกทั้งการตัดสินของศาลในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการตัดสินคดีใดคดีหนึ่ง แต่จะกลายมาเป็นบรรทัดฐานตัดสินแนวทางปฏิบัติในระยะยาว กรณีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-56099237
https://soranews24.com/…/brown-haired-girl-sues…/
https://www.japantimes.co.jp/…/osaka-dye-hair-black/
#Brief #TheMATTER