นี่เป็นอีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการถอยหลัง ด้าน ‘การเปิดเผยข้อมูล-ความโปร่งใส’ ของผู้มีอำนาจไทย
.
แม้จะพอคาดเดาผลได้ล่วงหน้า แต่เราก็อยากพิสูจน์ และผลก็ออกมาตามพาดหัวข่าว
.
หากใครยังจำกันได้ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 ฝ่ายค้านอภิปรายโจมตีรัฐบาลเรื่องความไม่โปร่งใส หนึ่งในนั้นคือกรณีไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน หลังแปลงร่างจากรัฐบาลรัฐประหาร มาเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง (แบบมี ส.ว.แต่งตั้งช่วย) เมื่อปี พ.ศ.2562
.
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ลุกขึ้นตอบโต้ข้อหานี้ว่า แม้จะได้รับอานิสงส์จากกฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับใหม่ มาตรา 105 วรรคสี่ (ซึ่งออกมาโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.) ที่ไม่บังคับให้รัฐมนตรียื่นบัญชีฯหากรับตำแหน่งเดิมภายในหนึ่งเดือน แต่ตนและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็ไปยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้กับ ป.ป.ช. เพื่อเป็นหลักฐาน
.
“ส่วน ป.ป.ช.จะเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวต่อสาธารณชนหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.” วิษณุกล่าว
.
The MATTER เลยทำหนังสือขอดูบัญชีทรัพย์สินทั้งของวิษณุและของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยื่นไว้ครั้งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้งในปี พ.ศ.2562 ซึ่งตามปกติแล้ว ทุกๆ ครั้งที่รัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่ง (พ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบหนึ่งปี) จะต้องยื่นบัญชีฯ และ ป.ป.ช.จะเปิดบัญชีฯ ให้สาธารณชนได้ตรวจสอบอย่างละเอียด
.
แต่ครั้งนี้ ป.ป.ช.ทำหนังสือตอบกลับเรามาว่า ให้ดูไม่ได้ “เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีฯ ของผู้ยื่นที่ยื่นไว้เพื่อเป็นหลักฐาน” และบัญชีดังกล่าวเป็นข้อมูลซึ่งมีลักษณะเฉพาะของบุคคลที่ได้มาจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ห้ามมิให้เปิดเผยตามกฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับใหม่ มาตรา 36
.
ลงชื่อท้ายเอกสาร สุกิจ บุญไชย ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ปฏิบัติราชการแทนเลขาฯ ป.ป.ช.
.
.
#ทำไมรัฐมนตรีบางคนไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน
.
การยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ ‘ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง’ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. ให้สาธารณชนรับทราบ ซึ่งมีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2540 เดินมาถึง ‘จุดเปลี่ยน’ เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2560 โดยใน พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 (กฎหมาย ป.ป.ช.) มาตรา 105 วรรคสี่ กำหนดไว้ว่า ถ้าพ้นและรับตำแหน่งเดิมภายใน 1 เดือน “ผู้นั้นไม่ต้องยื่นบัญชีฯใหม่” แม้ไม่ห้ามที่จะยื่นไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
.
อานิสงส์ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ทำให้มีรัฐมนตรี 7 คน ที่แปลงร่างจาก ครม.ประยุทธ์รัฐประหาร มาเป็น ครม.ประยุทธ์เลือกตั้ง ‘ไม่ต้องยื่นบัญชีฯใหม่’
.
เมื่อเราลองย้อนดูเส้นทางของกฎหมาย การ ‘ไม่ต้องยื่นบัญชีฯใหม่’ หากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ารับตำแหน่งเดิม ถูกเสนอโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดของมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่กระทั่ง ป.ป.ช.เองยังแสดงความเห็นว่า อยากให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินอยู่ “เพื่อให้สามารถตรวจสอบเปรียบเทียบบัญชีฯได้”
.
แต่ กรธ.ก็ยังเสนอร่างแบบเดิมให้ สนช.พิจารณา ที่ลงมติในวาระสอง เห็นชอบเนื้อหานี้ (มาตรา 103 ในฉบับร่าง และมาตรา 105 เมื่อใช้จริง) แบบเป็นเอกฉันท์ 209 เสียง และเห็นชอบกฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่ทั้งฉบับ ในวาระสาม 198 เสียง ไม่เห็นชอบ 1 เสียง จนออกมาใช้ในที่สุด
.
.
#ยังมีการเปิดเผยข้อมูลอะไรที่หายไปอีก
.
นอกเหนือจากรัฐมนตรีได้นั่งเก้าอี้เดิมไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินซ้ำ อีกการเปิดเผยข้อมูลที่ ‘หายไป’ คือการแสดงบัญชีทรัพย์สินบนเว็บไซต์ของ ป.ป.ช. ที่เคยช่วยให้ประชาชนและสื่อมวลชนใช้ตรวจสอบการทุจริตมาหลายครั้งหลายหน
.
แต่หลังจากปี พ.ศ.2561 เป็นต้นมา บัญชีทรัพย์สินต่างๆ จากโชว์บนเว็บไซต์ ป.ป.ช. ‘แค่ 180 วัน’ เท่านั้น ไม่ได้โชว์ไปตลอดกาล เช่นในอดีต (โดยเนื้อหานี้ให้ใช้กับบัญชีฯ ที่ยื่นไว้ก่อนหน้าด้วย)
.
กรณีนี้ เกิดจากประกาศ ป.ป.ช.เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ.2561 ที่ ป.ป.ช.ออกมาใช้เอง โดยวรวิทย์ สุขบุญ เลขาฯ ป.ป.ช.เคยชี้แจงกับ The MATTER ว่า เพราะการโชว์บัญชีฯ ไว้ตลอดกาล “เคยมีมิจฉาชีพนำข้อมูลดังกล่าวไปหาประโยชน์” และคิดว่าที่ให้แสดงบัญชีฯไว้ 180 วัน ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะตามปกติ คนก็จะฮือฮาตอนสื่อนำเสนอข่าวแค่ 1-2 สัปดาห์แรก
.
เลขาฯ ป.ป.ช.ยังชี้แจงว่า แต่ถึงบัญชีฯใดที่นำลงจากเว็บไซต์แล้ว หากใครสนใจอยากเข้าตรวจดู ก็ยังสามารถทำหนังสือมาขอดูข้อมูลที่สำนักงานได้
.
แต่จากประสบการณ์ของเรา เท่าที่เคยทำหนังสือขอดูบัญชีฯ อดีต ส.ว.รายนึง (ผู้เป็นทนายความของทายาทตระกูลเครื่องดื่มชูกำลังในคดีดัง) ไปกลางปี พ.ศ.2563 กว่าที่จะได้ดูข้อมูลดังกล่าวจริงๆ เวลาก็ผ่านไปหลายเดือน จนข้อมูลที่เราขอดูไม่มีประโยชน์แล้ว
.
เรายังเคยตั้งข้อสมมุติฐานเล่นๆ ว่า ถ้าประกาศนี้ใช้ก่อนหน้านี้ สังคมไทยอาจไม่ได้รู้จักคดีนาฬิกายืมเพื่อน เพราะกว่าจะได้ขอดูว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยื่นการถือครองนาฬิกาหรูไว้ในบัญชีฯ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.หรือไม่ เวลาก็คงผ่านไปหลายเดือน
.
หากความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือความไม่ยุติธรรม
.
การเปิดเผยข้อมูลที่มีเงื่อนไข ใช้เวลานาน เต็มไปอุปสรรค ก็คงไม่ต่างไปกับการไม่เปิดเผยข้อมูล
.
แล้วใครจะได้ประโยชน์ที่สุด จากการที่ข้อมูลสำคัญไม่ถูกเปิดเผย
.
แล้วใครจะได้ประโยชน์ที่สุด จากการที่พื้นที่อันมืดมิดไม่ถูกทำให้สว่างไสว
.
ใครคนนั้น คงไม่ใช่ประชาชน
.
.
อ้างอิงจาก
https://www.nacc.go.th/files/article/attachments/main_old_article_20190708153254.pdf
http://web.senate.go.th/bill/bk_data/347-1.pdf
https://www.senate.go.th/document/mVoteM/Ext38/38568_0001.PDF
https://www.prachachat.net/politics/news-319022
https://thematter.co/social/nacc-tranparency-general-rolex-case/78759
#Brief #TheMATTER