แม้อาจมีคนเถียงว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือองค์กรที่ทำรัฐประหารเมื่อปี 2557 จะแปลงกายมาเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน ผ่านกลไกที่จัดตั้งมาเพื่อสืบทอดอำนาจ เช่น ส.ว.แต่งตั้ง
แต่ถึงปัจจุบัน องค์กรทางการเมืองที่ชื่อ ‘คสช.’ ก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว
พอมีข่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะหยิบร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. …. ที่ประชาชนกว่า 1.3 หมื่นรายชื่อเสนอ (โดยมี iLaw เป็นผู้ริเริ่มภายใต้แคมเปญ ‘ปลดอาวุธ คสช.’) ในการประชุมวันที่ 1 ธ.ค.2564
ก็เชื่อว่า อาจมีคนสงสัยว่า ทำไมยังต้องมาตามยกเลิกกฎหมายที่ออกมาโดยคณะรัฐประหารชุดดังกล่าว ไม่ว่าจะในชื่อ ประกาศ คสช., คำสั่ง คสช. หรือคำสั่งของหัวหน้า คสช.อยู่อีก?
คำอธิบายง่ายๆ ก็คือ รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มาตรา 279 ได้บัญญัติให้ “บรรดาประกาศ คําสั่ง และการกระทําของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้..ชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้และกฎหมาย และมีผลใช้บังคับโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้ต่อไป การยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศหรือคําสั่งดังกล่าว ให้กระทําเป็นพระราชบัญญัติ”
และแทบจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของการเมืองไทยไปแล้วว่า คำสั่ง/ประกาศของคณะรัฐประหารที่มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมาย จะยังมีผลต่อไปแม้คณะรัฐประหารดังกล่าวจะหมดอำนาจไปนานแล้วก็ตาม กลายเป็นเรื่องที่คนรุ่นหลังต้องมาตามเช็ค ตามแก้ ตามยกเลิก จนถึงทุกวันนี้
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ปลดอาวุธ คสช. ของประชาชน 1.3 หมื่นรายชื่อ มีเนื้อหาเพื่อยกเลิกประกาศ คสช., คำสั่ง คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. รวม 35 ฉบับ โดยแบ่งหมวดกฎหมายของคณะรัฐประหารในปี 2557 ที่จะต้องถูกยกเลิกออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเสรีภาพในการแสดงออก กลุ่มสิทธิในกระบวนการยุติธรรม กลุ่มสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม และกลุ่มเสรีภาพสื่อมวลชน
แม้กฎหมายที่ คสช.ออกบางฉบับจะสิ้นสภาพไปแล้ว แต่เราอยากจะให้ดูว่า ครั้งหนึ่งคณะรัฐประหารเคยใช้อำนาจออกกฎหมายอะไรที่ประชาชนส่วนหนึ่งรู้สึกว่ากระทบสิทธิจนต้องเข้าชื่อกันเสนอกฎหมายมายกเลิกบ้าง อาทิ ประกาศ คสช. ฉบับที่ 7/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, ประกาศ คสช. ที่ 37/2557 ให้คดีพลเรือนบางอย่างขึ้นศาลทหาร, คำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 ที่ 66/2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2558 เกี่ยวกับปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า, ประกาศ คสช.ที่ 26/2557 ให้บล็อกเว็บได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล, ประกาศ คสช. ที่ 97/2557 และที่ 103/2557 ห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่สร้างความสับสน เป็นต้น
แต่การที่ร่างกฎหมายนี้จะผ่านออกมาใช้ได้จริงๆ จะต้องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา (ส.ว.แต่งตั้ง) ถึง 3 วาระ เป็นโจทย์ใหญ๋ที่ท้าทายและชวนติดตาม
.
– ชวนดูเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.ปลดอาวุธ คสช.ที่ประชาชน 1.3 หมื่นรายชื่อเข้าชื่อเสนอฉบับเต็มได้ที่: http://edoc.parliament.go.th/getfile.aspx?id=745269&file=118%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B8%8A.+(2).pdf&download=1
#Brief #TheMATTER