ช่วงนี้ใครเลื่อนผ่านฟีดโซเชียลฯ อาจได้พบเจอวิดีโอภาพสิ่งมีชีวิตแสนประหลาดจาก AI ที่มาพร้อมชื่อแปลกหู ฟังดูเป็นภาษาต่างประเทศ ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือน้องๆ หนูๆ หรือเพื่อนเราดันท่องชื่อพวกนี้ได้แม่นนี่สิ
ที่เห็นก็มีทั้ง Tung Tung Sahur กลองไม้รูปร่างคล้ายคน หรือ Tralalero Tralala ฉลามสามขาใส่รองเท้าไนกี้ พวกนี้คือตัวอะไร๊? โลกทุกวันนี้ชักจะหมุนไวเกินไปแล้ว
เหล่าสิ่งมีชีวิตแปลกตาที่กำลังพูดถึงอยู่นี้มาจากมีม ‘Italian Brainrot’ เป็นมีมที่ใครสักคนใช้ AI สร้างภาพ (generate) และทำเป็นวิดีโอขึ้นมา ภาพที่ได้มักจะเป็นภาพของสัตว์/สิ่งมีชีวิตที่รวมเข้ากับสิ่งของบางอย่าง โดยอาจมีรายละเอียดที่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง และใส่เสียง AI ที่พูดถึงชื่อและเล่าถึงตำนานสุดจะไร้แก่สารของแต่ละตัวด้วยสำเนียงการพูดแบบอิตาลี (ซึ่งคนอิตาลีออกมาโต้ว่า ใครเขาพูดกันแบบนี้) มีม Italian Brainrot เริ่มได้รับความสนใจมาตั้งแต่ต้นปี 2025 จนมีชาวเน็ตเอามาเล่นกันแพร่หลาย จากตัวละครแค่ไม่กี่ตัว จนตอนนี้มีเกือบจะ 40 ตัวเข้าไปแล้ว
แม้จุดเริ่มต้นและการมีอยู่ของมีม Italian Brainrot จะดูไร้สาระจนพาเราปวดหัวสมองเน่าไปตามๆ กัน—และมันก็สร้างมาด้วยจุดประสงค์นั้นจริงๆ นั่นแหละ—แต่ในอีกทางหนึ่งก็อาจมองได้ว่า มีม Italian Brainrot นั้นแสดงให้เห็นถึงความร่วมสมัยและพัฒนาการของมีมได้เช่นกัน
แรกสุด มีมนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าโลกไม่มีเทคโนโลยีสร้างภาพจาก AI ตัวมีมเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อก่อนเข้าสู่ยุค AI เต็มขั้น ในวันที่ผู้ใหญ่ยังคงสับสนระหว่าง AI กับภาพจริง เด็กบนโลกออนไลน์ก็กำลังเอาสัตว์และสิ่งของมายำรวมกันเพื่อความสนุกสนาน
Italian Brainrot ยังน่าสนใจยิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตัวละครมีเยอะขึ้น บางตัวยังมีนัยสื่อถึงประเด็นทางสังคม (เช่น สงคราม ศาสนา ความเป็นชาย) ชาวเน็ตจึงสร้างเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครขึ้นมา มีความขัดแย้ง มีพันธมิตร มีสงคราม กลายเป็นจักรวาลสิ่งมีชีวิตสมองเน่าที่มีเรื่องเล่าเป็นของตัวเอง อีกทั้งเรื่องเล่าที่ว่าก็ถูกส่งต่อจนได้รับความนิยม มีม (meme) ในความหมายนี้ก็อาจไปมีลักษณะคล้ายตำนาน (myth) ที่เรามักเล่าต่อๆ กัน มีการผิดเพี้ยนระหว่างทาง เพียงแค่ย้ายพื้นที่มาอยู่บนโลกออนไลน์ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่นกรณีภาพผี Slenderman หรือวิดีโอฟุตเทจ The Backroom
ว่ากันไปซะยืดยาว คงอยากรู้จักเหล่าสิ่งมีชีวิตพิสดารกันแล้วสิท่า ขอเตือนไว้ก่อน สิ่งนี้เป็นมีมที่ผ่านมาและจะผ่านไป ไม่แนะนำสำหรับใครก็ตามที่ไม่อยากรับรู้ข้อมูลรกสมอง
ส่วนใครกำลังว่างๆ อยากไปพูดชื่อประหลาดๆ ใส่เพื่อน หรือเอาไปเป็น conversation starter ขอเชิญพบกับสิ่งมีชีวิตตัวท็อปแห่ง จักรวาล Italian Brainrot ที่ The MATTER อยากบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์มีม
Tralalero Tralala
เชื่อกันว่า ‘Tralalero Tralala (ตราลาเลโร ตราลาลา)’ คือสิ่งมีชีวิตตัวแรกของมีม Italian Brainrot แทนที่จะว่ายน้ำเหมืนฉลามทั่วไป มันกลับมีสามขา สองขาแทนครีบหน้าด้านข้าง และอีกขาอยู่บริเวณหางด้านหลัง แถมยังใส่รองเท้าไนกี้สีฟ้าสุดคูล เพื่อเพิ่มความเท่และความเฟี้ยวฟ้าวในการเคลื่อนที่ สามารถวิ่งได้รวดเร็ว มีพลังขย้ำรุนแรง และแรงกระโดนอันน่าเหลือเชื่อ
ตามตำนาน (ที่ไม่มีจริง) เล่าว่า Tralalero Tralala คือหนึ่งในตัวละครที่ร่วมรบในสมรภูมิ Croco-Avian Wars สงครามที่กินเวลายาวนานระหว่าง Crocos (สัตว์บก/ครึ่งบกครึ่งน้ำ) และ Avians (สัตว์ปีก) เขาคือคนที่วางแผนสังหารห่านที่มีลำตัวเป็นเครื่องบิน ด้วยการปีนขึ้นไปบนเครื่องยนต์ ทว่าทำไม่สำเร็จ
Bombardiro Crocodilo
‘Bombardiro Crocodilo (บอมบาร์ดิโร โครโคดิโล)’ สัตว์สมองเน่าที่มีหัวเป็นจระเข้และลำตัวเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 เขาคือพี่น้องของห่านที่ Tralalero Tralala พยายามลงมือฆ่า และเคยร่วมรบในสงคราม Croco-Avian Wars จุดอ่อนสำคัญคือการแพ้ทางการต่อสู้ระยะประชิด เพราะมักพ่ายแพ้ให้กับ Tung Tung Sahur
นอกจากรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม เรื่องเล่าของ Bombardiro Crocodilo สะท้อนภาพสงครามอันน่ากลัวในโลกความเป็นจริง เนื่องจากมีข้อมูลหนึ่งอธิบายว่า จระเข้เครื่องบินทิ้งระเบิดตัวนี้อาจเป็นภาพแทนของการทิ้งระเบิดในฉนวนกาซา
Tung Tung Tung Tung Tung Tung Tung Tung Tung Sahur
‘Tung Tung Tung Sahur (ทุง ทุง ทุง ซะอูร์)’ หรือชื่อเต็มว่า ‘Tung Tung Tung Tung Tung Tung Tung Tung Tung Sahur’ คือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลมีม Italian Brainrot มันคือกลองที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ ในมือถือท่อนไม้ยาว ตำนานเล่าว่า หากคุณถูกเรียกให้มา Sahur ถึงสามครั้งแล้วยังไม่ลุก มันจะปรากฏตัวออกมาพร้อมเสียงกลอง “ตึง ตึง ตึง” เพื่อหลอกหลอนและเอาไม้ฟาดหัว—ฟังแล้วตัวนี้น่ากลัว กว่าใครเพื่อน
Lirilì Larilà
ช้างที่เดินไปเดินมาท่ามกลางทะเลทรายตัวนี้มีชื่อว่า ‘Lirilì Larilà (ลิริลี่ ลาริล่า)’ มันมีหัวเป็นช้างและร่างกายทั้งตัวเป็นต้นกระบองเพรช ทั้งยังสวมร้องเท้าแตะสีน้ำตาลคู่ใจ ลิริลี่นั้นรักสงบและมักหลีกเลี่ยงการต่อสู้ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันหรือจำเป็นต้องสู้ งวงที่มีมัดกล้ามแน่นและนาฬิกาหยุดเวลาคืออาวุธที่จะใช้กำราบศัตรู
Boneca Ambalabu
มีข้อมูลไม่มากเท่าไหร่เกี่ยวกับ ‘Boneca Ambalabu (โบเนก้า แอมบาลาบู)’ ส่วนมากเป็นเรื่องราวปะติดปะต่อ บ้างว่าระหว่างเดินทางท่องเที่ยว คู่รักคู่หนึ่งไปพบเจอน้ำมันผุดพุ่งจากพื้นดินมีรูปร่างคล้ายหัวกบ ล้อยาง และแข้งขา บ้างว่ามันคือตัวตนชั่วร้ายที่คอยก่อกวนผู้ใช้รถใช้ถนน จนนักวิทยาศาสตร์ต้องหาทางรับมือกับมัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าต้องเจอสิ่งมีชีวิตมีหัวเป็นกบ ตัวเป็นล้อยาง เดินด้วยขาสองข้างขึ้นมาจริงๆ จะต้องรู้สึกยังไงกับมันดี
Brr Brr Patapim
‘Brr Brr Patapim (เบรอ เบรอ ปาตาปิม)’ เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับที่อาศัยอยู่ในป่า มีใบหน้าเหมือนลิงและจมูกยาวเฟื้อย ส่วนแขนขาก็มีลักษณะเป็นต้นไม้ในป่ารกชัฏ ที่แตะตาที่สุดก็คือเท้าขนาดใหญ่ยักษ์ เคยมีเรื่องเล่าบันทึกไว้ว่า Patapim ได้ไปเจอเข้ากับหมวกสีทองใบหนึ่ง หลังจากดีใจไม่นาน เขาพบว่ามีกบสีฟ้าชื่อ Slim ร้องเสียง “เบรอ เบรอ” อาศัยอยู่ในหมวกใบนั้น Patapim จึงไปขอความช่วยเหลือจากพ่อมด Tiramisù พ่อมดแนะนำให้เป่าลูกโป่งเพื่อกำจัด Slim หลังจาก Patapim เป่าลูกโป่ง Slim ก็ลอยหายไปในอากาศ
ครั้งหนึ่ง Patapim เคยเผชิญหน้ากับ Tung Tung Tung Sahur และสามารถเอาชนะได้ด้วยความช่วยเหลือจากนกพิราบที่มีลำตัวเป็น Cybertruck แต่ Tung Tung Tung Sahur ก็ยังหาทางรอดไปได้จากเหตุการณ์นี้
Frigo Camelo
การเดินทางอันยาวไกลและเหนื่อยล้าคือทั้งชีวิตของ ‘Frigo Camelo (ฟริโก้ คาเมโล)’ เขาคืออูฐผู้หลงทาง เดินทางออกจากทะเลทรายด้วยรองเท้าบูทขนาดมหึมา และมีลำตัวเป็นตู้เย็น เขามักบนพึมพำว่า “ในนี้มันหนาวเหลือเกิน” เขายังคงเดินต่อไปคนเดียว จากเมืองหนึ่งไปสู่อีกเมืองหนึ่ง จากโรม ปารีส มาดริด ถึงมิลาน ท่ามกลางแดดร้อนระอุ ผู้คนข้างทางต่างพากันสงสารอูฐผู้น่าสงสารตัวนี้ ทว่าไม่มีใครเข้าไปช่วย เขายังเดินต่อไปแม้จะไร้ความหวัง แรงกำลังก็ค่อยๆ ร่อยหรอลงเรื่อยๆ
La Vaca Saturno Saturnita
“วัวที่กำลังเห็นอยู่นี่คือความฝันหรือความจริงกันแน่?” ผู้พบเห็นถามขึ้นด้วยความตกตะลึงเมื่อยืนอยู่ต่อหน้า ‘La Vaca Saturno Saturnita (ลา วาคา ซาตูร์โน ซาตูร์นิต้า)’ เธอคือวัวแห่งความยินดีและการเฉลิมฉลอง มีหัวเป็นวัว ลำตัวเป็นดาวเสาร์ และเท้าโต ซาตูร์นิต้าจะเดินด้วยความสงบและมีความสุข พร้อมกับนำเสียงหัวเราะมาให้ผู้คนมากมาย “พรุ่งนี้จะเป็นอีกวันอันเจิดจ้า” คือคำพูดประจำตัวของซาตูร์นิต้า ก่อนเธอจะเดินกลับบ้านในยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
Udin Din Din Din Dun
ด้านความเป็นชายแท้ต้องยกให้ ‘Udin Din Din Din Dun (อูดิน ดิน ดิน ดุน)’ หรือชื่อเต็มว่า ‘U Din Din Din Din Dun Ma Din Din Din Dun’ ตัวละครนี้มีหน้าและลำตัวเป็นส้มทั้งผล ใบหน้าบนผลส้มคือใบหน้าของมนุษย์ แขนขามีกล้ามเป็นมัดแน่นปึ้กแบบนักเพาะกาย ผิวพรรณนั้นก็เป็นสีทองเปล่งปลั่ง ว่ากันว่า Udin Din Din Din Dun คือผลส้มที่ชอบเคี้ยวเมล็ดส้มเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นส้มผู้แข็งแกร่งในที่สุด
Girafa Celestre
อีกหนึ่งสัตว์ในจักรวาล Italian Brainrot ที่มีเท้าขนาดใหญ่ยักษ์ นอกจากจะเท้าใหญ่ ‘Girafa Celestre (จิราฟา เซเลสเต้)’ หรือ ‘Girafa Celestre Viaggio Agereste’ ยังมีลำตัวเป็นแตงโม การเดินทางในอวกาศทำให้เธอต้องสวมหมวกนักบินอวกาศ บางตำนานเล่าว่า จิราฟากับซาตูร์นิต้า วัวที่มีลำตัวเป็นดาวเสาร์ คือศัตรูกัน และจิราฟาคือฝ่ายพ่ายแพ้ ทว่าอีกตำนานกลับบันทึกถึงความสนิทสนมของทั้งคู่ ทั้งสองเต้นรำเคียงข้ากันในอวกาศไร้สิ้นสุด ส่วนใครจะเชื่อตำนานไหน เลือกได้ตามใจ เพราะไม่น่าจะมีประโยชน์อะไรกับชีวิต
Pot Hotspot
“Pot Hotspot คือคนที่ขอฮอตสปอตจากเพื่อน แล้วใช้เน็ตเยอะเพื่อดูยูทูบโหลดไฟล์ใหญ่ และลงข้อมูลเกมอย่าง Genshin Impact เขายังสามารถซื้อขนมในโรงอาหารได้ไม่จำกัดด้วยเหตุผลลึกลับ”
ไม่แน่ใจว่าบุคลิกของ ‘Pot Hotspot (พอต ฮอตสปอต)’ ไปแตะต่อมใครบ้างหรือเปล่า ฟังแล้วก็อาจจะชวนให้นึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่ขอใช้เน็ตเราบ่อยๆ ตำนานเล่าว่า Pot Hotspot มีส่วนสำคัญในสงคราม Croco-Avian Wars ในฐานะผู้ปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมสนามรบ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่นำมาปล่อยนั้น เขาขอมาจากเพื่อนอีกทีหนึ่งหรือเปล่า
Burbaloni Luliloli
ถ้าบ้านเราเรียกคาปิบาร่าว่า หมามะพร้าว ‘Burbaloni Luliloli (เบอร์บาลอนี ลูลิลอลี่)’ ก็คือคาปิบาร่าที่ลำตัวเป็นมะพร้าวทั้งลูก ชาวบ้านเชื่อกันว่ามันคือมะพร้าวพิเศษที่หายากสุดๆ บนชายฝั่งบาหลี หากพบเห็น ชาวบ้านจะรวมกันตัวกันก่อกองไฟเพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของเทพเจ้าคาปิบาร่า โคโค่ ว่าไปนั่น!
และทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิตสุดเซอร์เรียลจากมีม Italian Brainrot เป็นยังไงล่ะ หลุดโลกพอหรือยัง?
อ้างอิงจาก