มันเป็นกลางดึกวันเสาร์ที่คนส่วนมากออกไปสังสรรค์หรือไม่ก็ใช้เวลากับครอบครัว รถของ Vinod Kapri ผู้กำกับภาพยนต์ขับอยู่บนถนนอย่างเอื่อยๆ ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็น Pradeep Mehra ชายหนุ่มวัย 19 ปีวิ่งผ่านไปด้วยความเร็ว ด้วยความเป็นห่วงว่าเด็กหนุ่มอาจเกิดอันตราย Kapri จึงชวนชายหนุ่มขึ้นรถ แต่เขาปฏิเสธ
“รูทีนชีวิตของผมจะเปลี่ยน ถ้าผมขึ้นรถไปกับคุณ” Mehra อธิบายเหตุผล ขณะที่สองขายังก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วใกล้เคียงกับรถของ Kapri
Mehra ปฏิเสธคำชวนให้ขึ้นรถของ Kapri โดยให้เหตุว่า เขาวิ่งเป็นระยะทาง 10 กม. หลังเลิกงานเป็นประจำอยู่แล้ว มันเป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาวิ่งได้ เพราะตอนเช้าเข้าต้องทำงานที่ร้านแม็คโดนัลด์ และที่เขาวิ่งทุกวันนี้เพื่อฝึกฝนร่างกายตัวเอง เตรียมพร้อมสมัครเข้าสู่กองทัพอินเดีย
และเมื่อ Kapri ถามชายหนุ่มต่อว่าจะไปดินเนอร์กับเขาได้ไหม ชายหนุ่มก็ปฏิเสธ เขาบอกว่าต้องรีบกลับบ้านเพื่อเตรียมอาหารให้พี่ชายก่อนออกไปทำงาน Mehra อาศัยอยู่กับพี่ชายสองคนในเมือง Noida ส่วนพ่อและแม่ของคนทั้งคู่อาศัยอยู่ที่ Uttarakhand รัฐทางตอนเหนือของอินเดีย โดยพ่อเขากำลังดูแลแม่ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ
ทางด้าน มานิช สิโศเดีย รองมุขมนตรีกรุงเดลีกล่าวว่าเขาไม่สามารถหยุดดูความมุ่งมั่นของไอหนุ่ม Mehra ได้ เขากล่าวว่า “ข้าราชการและนักการเมืองทั้งหลายจะรู้สึกตัวเล็กจ้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าความมุ่งมั่นและทุ่มเทของเด็กหนุ่มคนนี้” ขณะที่ทางด้าน พล.ท. Satish Dua นายทหารระดับสูงที่เกษียรไปแล้ว ได้ทวีตว่าเขาได้คุยกับนายพลระดับสูงในกองทัพอินเดียแล้วเรื่องของเด็กหนุ่มวัย 19 ปีที่อยากเข้าร่วมกองทัพคนนี้
สำนักข่าว BBC รานงานว่าคลิปวีดีโอนี้มียอดแชร์มากกว่า 6 ล้านครั้งแล้ว ในโซเชียล มีเดียบ้างก็นับถือความมุ่งมั่นทุ่มเทของเด็กหนุ่ม และบ้างกล่าวว่านี่คือภาพสะท้อนความสิ้นหวังในการหางานของคนอินเดียรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว The Print เขียนบทความ “‘Running Boy’ Pradeep Mehra’s overnight fame shows India’s obsession with merit and success” วิจารณ์ค่านิยมของสังคมอินเดียที่เชื่อว่าการทำงานหนักจะพาไปสู่ความสำเร็จ ขณะที่อินเดียยังคงเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างหลายประากร เช่น การเข้าไม่ถึงการศึกษา ซึ่งตัว Pradeep เองก็ต้องออกจากโรงเรียนหลังจบชั้น ม.6 เพราะครอบครัวไม่มีตังส่งเสีย รวมไปถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำ ที่คาดการณ์ว่าครอบครัวยากจนอาจต้องใช้ถึง 7 ชั่วอายุคน เพื่อเพิ่มรายได้ให้ได้เท่าค่าเฉลี่ยของครอบครัวทั่วไป
อ้างอิง:
https://www.bbc.com/news/world-asia-india-60818001