ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เข้ามาที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า เป็นครั้งแรก ช่วงบ่ายวันนี้ (1 มิ.ย. 2565) ก่อนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รับมอบหน้าที่จากปลัด กทม. ให้นโยบายสั้นๆ กับข้าราชการ กทม. และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
ชัชชาติได้เปิดตัวทีมงานที่จะมาร่วมบริหารงาน กทม. เป็นครั้งแรก มีรายชื่อดังนี้
รองผู้ว่าฯ กทม.
- วิศณุ ทรัพย์สมพล อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ (ดูเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน/จราจร)
- จักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. (ดูเรื่องการเงิน)
- ทวิดา กมลเวชช อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (ดูเรื่องภัยพิบัติ/สาธารณสุข)
- ศานนท์ หวังสร้างบุญ (ดูเรื่องพัฒนาสังคม/การศึกษา)
คณะที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.
- ต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษา
- เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
- พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม
- พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์
- พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี
- วิลาวัลย์ ธรรมชาติ
- อรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี
- ภาณุมาศ สุขอัมพร ตัวแทนผู้พิการ
- พรพรหม วิกิตเศรษฐ์
เลขานุการ คือ ภิมุข สิมะโรจน์
“วิธีการเลือกทีมงาน ผมดูหลายๆ มิติ หนึ่ง ความโปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต ไว้วางใจได้ สอง มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และยังมีอีกกลุ่มที่ไม่ได้สรุปคือ เชี่ยวชาญทางเทคนิค 30-40 คน ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งปรึกษามาตั้งแต่หาเลือกตั้ง” ชัชชาติกล่าว
โดยงานเร่งด่วนที่จะทำ มี 4 เรื่อง หนึ่ง น้ำท่วม สอง ความปลอดภัยทางถนน เช่น ทางม้าลายต่างๆ สาม หาบเร่แผงลอย และสี่ สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จะเชิญตัวแทนจากบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด มาให้ข้อมูล
ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ยังกล่าวถึงกรณีสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ออกมาบอกว่า เหลืองบลงทุนในปีงบประมาณ 2565 (ระหว่างเดือน ต.ค.2564 – เดือน ก.ย.2565) ให้ใช้เพียง 94 ล้านบาทว่า ที่งบน้อยเพราะลดการเก็บภาษีที่ดินฯ ไป แต่ตัวเลขเท่าที่คุยกับปลัด กทม. พบว่ายังมีเงินที่ไม่ได้จ่าย และนโยบายต่างๆ ที่ตนเสนอไป ไม่ได้ใช้เงินเยอะ ไม่มีเมกะโปรเจ็กต์ใดๆ จึงต้องจัดลำดับความสำคัญก่อนว่าจะทำเรื่องอะไร เช่น แอพฯ แจ้งเหตุ Traffy Fondue ที่ไม่ได้ใช้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว หลายเรื่องเดินได้โดยไม่ต้องใช้งบ
ระหว่างพบกับผู้บริหารและข้าราชการ กทม. ชัชชาติยังมอบนโยบาย 4 เรื่อง
หนึ่ง ต้องบอกว่า ผมไม่ใช่นาย อย่าเรียกผมว่า ‘นาย’ มีอะไรพูดกัน ถ้าทำอะไรไม่เหมาะบอกได้ เป็นสื่อสาร 2 ทาง เพราะผมเป็นคนใหม่ของ กทม. หลายอย่าง เช่น นโยบาย 214 ข้อ อยากให้ช่วยอ่านนิดนึง อยากได้ฟีดแบ็กจากทุกคนว่า นโยบายเหล่านี้ควรจะปรับปรุงอย่างไร หรืออยากจะเพิ่มเติม สามารถบอกได้
สอง เรื่องความโปร่งใส สุจริต อันดับหนึ่ง ผมจะไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น ณ ตอนนี้มีคนเริ่มไปแอบอ้างชื่อผมแล้ว ยืนยันว่าไม่มี ถ้ามีคนแอบอ้างให้แจ้งทีมงานของผมเลย อยากจะให้ กทม.มีชื่อเสียงตรงนี้ว่าเป็นหน่วยงานที่สุจริต เชื่อว่าทุกคนอยากจะทำงานให้โปร่งใส และอยากได้ความยุติธรรมในการแต่งตั้งที่เป็นธรรม
สาม ผมเป็นคนตื่นเช้า แต่ทุกๆ คนไม่ต้องตื่นเช้าตามผม เข้าใจว่าทุกคนมีภารกิจต้องดูแล มีลูกไปส่ง มีภรรยาต้องดูแล ทุกคนต้องทำตามกิจวัตรตัวเอง เวลาไปลงพื้นที ไม่จำเป็นไม่ต้องมา มาเฉพาะที่จำเป็น บางทีเวลาไปไหนไม่ได้บอกล่วงหน้า ไม่ได้จับผิด แต่เกรงใจ
สี่ ป้ายต่างๆ ไม่ให้มีชื่อผมหรือรูปผมเลย เพราะพวกเราทำงานในฐานะคนที่มารับใช้ประชาชน ในนามของ กทม. ไม่ต้องการเอาชื่อหรือรูปไปติดที่ไหน เวลาไปไหนขอให้เรียบง่าย จำนวนน้อยๆ อย่าทำความเดือดร้อนให้ประชาชน จะมีผู้ว่าฯ สัญจร ปีนึงน่าจะลงไปครบ 50 เขต และสำนักต่างๆ ก็จะไปเยี่ยม 16 สำนักอยู่แล้ว
โดยชัชชาติกล่าวย้ำว่า “เราเป็นทีมงานเดียวกัน”
“ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพวกเรานะครับ มันมีภาษาอังกฤษ คำว่า radical transparency คือทำงานกับผมอย่าเกรงใจ ถ้ามีอะไรแสดงความเห็นได้ทันที ทุกคนมีอะไรอย่าเก็บไว้ในใจ พูดแล้วจบ หาข้อยุติ และเดินหน้าทำงานให้ประชาชน ผมถึงไม่อยากเป็นนาย เพราะถ้าเป็นนาย เราจะไม่กล้าเถียง แต่ถ้าเป็นเพื่อนร่วมงาน เราจะกล้าพูด กล้าแสดงออกมากกว่า” ชัชชาติกล่าว
Photo by ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ/Thai News Pix
#Brief #TheMATTER