หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมในวันนี้ (18 พฤศจิกายน) ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ พายุ บุญโสภณ หรือ พายุ ดาวดิน สมาชิกกลุ่ม ‘ราษฎรโขงชีมูน’ ซึ่งถูกตำรวจยิงกระสุนยางเข้าที่ดวงตาข้างขวา อาการล่าสุด แพทย์ระบุว่า ลูกตาแตกตั้งลูก และโอกาสกลับมาใช้งานปกติต่ำกว่า 1%
เพจดาวดิน สามัญชน Daodin Commoners ระบุว่า “หมอผ่าตัดดวงตาแจ้งว่า ลูกตาทั้งลูกแตกละเอียด วุ้นตา เลนส์ตา จอตาเสียหายทั้งหมด การรักษา ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดเย็บดวงตาให้เป็นลูกตากลมเหมือนเดิม แต่โอกาสกลับมาใช้งานได้ปกติต่ำกว่า 1% ตอนนี้ต้องให้ยาฆ่าเชื้อต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ 2-3 วัน หากมีอาการติดเชื้อต้องกลับมาพิจารณาการควักลูกตาออกเพื่อป้องกันติดเชื้อที่อาจจะลามไปสมอง”
“หมอศัลยกรรม ในส่วนของแผลภายนอกคือ กล้ามเนื้อหนังตาขาด เสียหายมาก มีผลต่อการลืมตา กระดูกจมูกแตก ตอนนี้หมอศัลยกรรมกำลังผ่าตัดตกแต่งหนังตาที่ฉีกขาด และกระดูกจมูกแตก”
การชุมนุมวันนี้ดำเนินโดย กลุ่ม ‘ราษฎรหยุดเอเปค 2022’ ซึ่งเดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หวังจะแสดงให้ผู้นำต่างชาติที่มาร่วมงาน APEC รับทราบถึงที่เกิดขึ้นปัญหาจากรัฐบาลไทย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ ส่วนการสลายการชุมนุมเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้ชุมนุมจุดไฟเผาพริก เผาเกลือบนเตาอั้งโล่ ทำให้มีควันจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดันแนวเข้ามาจับกุมประชาชนและใช้กระสุนยาง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า การที่ตำรวจจะสลายการชุมนุมได้นั้น ต้องผ่านการขอคำสั่งศาลให้สั่งเลิกการชุมนุม จึงจะดำเนินสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ชุมนุมได้ อีกทั้ง หลักการยิงกระสุนยางตามที่สหประชาชาติกำหนดไว้ ก็จะต้องยิงต่ำเท่านั้น ไม่ใช่ยิงตัว หรือยิงตาเช่นนี้
ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า มีผู้ชุมนุมถูกจับกุม 25 ราย และตำรวจได้สอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว ขณะนี้กำลังรอผลการประกันตัวในชั้นสอบสวนและให้ปากคำในภายหลัง
อ้างอิงจาก
