เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 เนติบัณฑิตยสภาได้ออกข้อบังคับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2566 โดยมีใจความหลักคืออนุญาตให้สมาชิกหญิงสามารถใส่กางเกงขายาวว่าความได้แล้ว
ข้อความในประกาศดังกล่าวระบุว่า “สมาชิกที่เป็นหญิง แต่งกายแบบสากลนิยม กระโปรง หรือกางเกงขายาวสีขาว กรมท่า ดำ หรือสีอื่นที่ดูเข้มและไม่ฉูดฉาด โดยมีรูปแบบที่เหมาะสม เสื้อสีขาวหรือสีตามกระโปรง หรือกางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้นสีขาว น้ำตาล หรือดำ เข้ากับชุดเครื่องแต่งกาย” โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (25 มีนาคม) เป็นต้นไป
ประเด็นนี้เกี่ยวเนื่องกับความพยายามผลักดันให้ทนายหญิงสามารถใส่กางเกงขายาวว่าความ โดยทาง iLaw เคยเขียนบทความอธิบายเรื่องนี้ โดยการแต่งกายของทนายความหญิงถูกกำกับด้วย ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 20 ซึ่งกำหนดให้ ทนายความหญิงต้องใส่กระโปรงและเสื้อสีสุภาพไม่ฉูดฉาด และถ้าฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ.2558 มีโทษสูงสุดถึงหยุดหน้าที่ทนายความ 3 ปี หรือลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ
และในเมื่อทนายความต้องเป็นสมาชิกของเนติบัณฑิตยสภา การแต่งกายจึงถูกควบคุมตามข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภาข้อ 17 เช่นกัน ซึ่งกำหนดให้สมาชิกเนติบัณฑิตยสภาที่เป็นหญิง แต่งกายแบบสากลนิยม “กระโปรง” สีขาว กรมท่า ดำ หรือสีอื่นซึ่งเป็นสีเข้มและไม่ฉูดฉาด เสื้อสีขาวหรือสีตามกระโปรง รองหุ้มส้นสีขาว น้ำตาล สีดำ เข้าชุดกันกับเครื่องแต่งกาย ซึ่งก็เป็นการกำหนดที่ไม่ได้แตกต่างจากข้อบังคับของสภาทนายความมากนัก
ในบทความดังกล่าวยังเขียนต่อว่า ในทางปฏิบัติ ทนายความหญิงเสี่ยงถูกผู้พิพากษาติงในเรื่องการแต่งกาย และเคยมีกรณีที่ทนายความหญิงถูกผู้พิพากษาตรวจเครื่องแต่งกาย และสั่งให้เสมียนศาลจดบันทึกเกี่ยวกับการแต่งกายทนายความในรายงานกระบวนการพิจารณาว่า “ทนายโจทก์เป็นผู้หญิงสวมกางเกงมาศาลจึงให้มีหนังสือแจ้งและสอบถามสภาทนายความว่าเป็นการกระทำที่ปฏิบัติตามมรรยาทสภาทนายความหรือไม่ เพื่อจะได้มีคำสั่งในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”
ทั้งนี้ การแก้ไขของบัณฑิตยสภาครั้งนี้เท่ากับเป็นการปลดล็อกแรกให้ทนายหญิงสามารถใส่กางเกงว่าความได้ โดยมีรายงานว่าสภาทนายความกำลังแก้ไขกฎเรื่องนี้ของตัวเองเช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/photo/?fbid=6452718381406075&set=pcb.6452721508072429