กระแส #สุราก้าวหน้า กำลังมาแรงสุดๆ คราฟต์เบียร์กับสุราพื้นบ้านถูกพูดถึงไม่เว้นวัน และอีกหนึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อาจก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดคงหนีไม่พ้น ‘ไซเดอร์’
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ไซเดอร์กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด และก็เป็นการกระโดดที่สูงเหลือเชื่อ สถิติรายได้ในประเทศอเมริการะบุว่า ปี 2019 ไซเดอร์สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสูงถึง 517.8 ล้านดอลลาร์ ก่อนขยับขึ้นมาเป็น 566 ล้านในปี 2020 ซึ่งนี่เป็นเพียงรายได้ที่ประเมินจากยอดค้าปลีกเท่านั้น เพราะหากนับรวมทุกประเภทการขาย ไซเดอร์นั้นสร้างรายได้ทะลุ 1 พันล้านเหรียญต่อปี และถูกคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 3.5% ระหว่างปี 2022-2027
ทางฝั่งประเทศไทย ไซเดอร์ก็กลายเป็นที่สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานมานี้ บนเวที ‘สุราก้าวหน้า On Tour’ ที่จังหวัดระยองในวันที่ 26 มีนาคม 2022 ก็มีการนำเสนอในประเด็นที่ว่า เมืองผลไม้อย่างระยองน่าจะสามารถรังสรรค์ผลิตภัณฑ์หมัก ดอง และกลั่นด้วยตัวเองได้มากมาย ลำพังเพียงสับปะรดก็สามารถแปลงสภาพเป็นเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ทั้ง ‘ไซเดอร์’ หวานฉ่ำ เหล้าร้อนแรง ไวน์แน่นๆ หรือกระทั่งบรั่นดีหอมๆ
ปัจจุบันวันนี้มีไซเดอร์สัญชาติไทยที่น่าจับตาหลัก ๆ 2 เจ้า ได้แก่ มูสไซเดอร์ (Moose Craft Cider) ไซเดอร์สัญชาติไทยแบรนด์แรกในท้องตลาดที่มีแอลกอฮอล์ 5% และไซเดอร์เบย์ เครื่องดื่มในเครือสิงห์ฯ ที่มีแอลกอฮอล์ 3.5% ซึ่งหลายฝ่ายก็เชื่อกันว่า จะมีอีกหลายเจ้าที่เข้ามาขอส่วนแบ่งในตลาดไซเดอร์ในไม่กี่อึดใจ แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น มาทำความรู้จักกันดีกว่าว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนี้คืออะไรกันแน่
ไซเดอร์ (Cider) เกิดจากการนำน้ำผลไม้มาหมักในระบบปิด (ไม่อาศัยออกซิเจน) โดยมีการนำยีสต์เข้ามาช่วยสร้างปฏิกิริยาเปลี่ยนน้ำตาลในผลไม้ให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ จนได้เป็นเครื่องดื่มรสเปรี้ยวที่มีแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 1.2%-12%
ไซเดอร์ส่วนมากผลิตจากน้ำแอปเปิล จึงมักถูกเรียกติดปากว่า ‘แอปเปิลไซเดอร์’ อย่างไรก็ดี ช่วงหลังมานี้ก็มีการนำผลไม้อื่นๆ มาเป็นวัตถุดิบเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ ลูกแพร และเลม่อน พร้อมทั้งมีการนำมะนาวและน้ำผึ้งมาเพิ่มความกลมกล่อมก่อนดื่มด้วย
สรรพคุณของไซเดอร์ซึ่งส่งให้เจ้าตัวกลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยม แบ่งหลักๆ ออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่
- ลดความอยากอาหาร– จริงๆ แล้ว มนุษย์ในอดีตใช้แอปเปิลไซเดอร์ในการลดน้ำหนักมานับพันปี เนื่องจากแอปเปิลไซเดอร์มีสรรพคุณช่วยลดการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินในกระแสเลือด ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความรู้สึกหิว โดยงานวิจัยในปี 2005 พบว่า ผู้ที่รับประทานขนมปังกับไซเดอร์เล็กน้อยจะรู้สึกอิ่มเร็วกว่าคนที่รับประทานเพียงขนมปังอย่างเดียว
- ดีท็อกซ์และขับของเสีย– ในไซเดอร์มีส่วนประกอบของกรดมาลิกและทาร์ทาริก ซึ่งมีส่วนช่วยในการย่อยโปรตีนและไขมัน ทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นยาปฏิชีวนะ ช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำลายแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยในการขับสารพิษของตับ
- ช่วยทางเดินหายใจ แก้หวัด ลดเสมหะ– หากนำไซเดอร์ประเภท ‘Apple Cider Vinegar’ 2 ส่วนมาผสมกับน้ำ 1 ส่วน แล้วใช้กลั้วคอ จะช่วยลดเสมหะและบรรเทาหวัดได้ เพราะไซเดอร์ประเภทนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากนั่นเอง
- ลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน– ในไซเดอร์มีกรดบางชนิดช่วยยับยั้งการหลั่งเอนไซม์ที่ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต คาร์โบไฮเดรตจึงเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ช้าลง และถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้น้อยลงตามลำดับ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงจนเกินไป เป็นการลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานได้อีกทางหนึ่ง
คงต้องติดตามกันต่อว่า เครื่องดื่มอย่างไซเดอร์จะเติบโตอย่างไรในตลาดโลก และจะมีแบรนด์ไหนในไทยที่หันมาลงทุนในตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้อีกบ้าง และก็ต้องจับตาเช่นกันว่าทิศทางของสุราก้าวหน้า จะเป็นอย่างไรต่อไป
อ้างอิงจาก
https://news.northeastern.edu/2022/10/19/hard-cider-popularity/