นี่คือคำตัดสินแรกของศาลสูงสุดญี่ปุ่น (Supreme Court) ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของชนกลุ่มน้อยทางเพศในที่ทำงาน และเป็นคำตัดสินแรกที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะส่งผลเป็นวงกว้างต่อทัศนคติเกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQIA+ ในญี่ปุ่น
เมื่อวานนี้ (12 กรกฎาคม) ศาลสูงสุดญี่ปุ่นอ่านคำพิพากษา ตัดสินเป็นเอกฉันท์ว่า การกีดกันห้ามหญิงข้ามเพศใช้ห้องน้ำหญิงในที่ทำงาน ถือว่าผิดกฎหมาย และ ‘ยอมรับไม่ได้’
เรื่องนี้เกิดจากการฟ้องร้องของพนักงานหญิงข้ามเพศในช่วงวัย 50 ปีคนหนึ่ง ในกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่น ที่มีเพศกำเนิดเป็นชาย และต่อมาเมื่อปี 1999 ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะ ‘gender dysphoria’ ทำให้เริ่มใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงนอกที่ทำงานตั้งแต่ปี 2008
จนกระทั่งปี 2009 เธอขอหัวหน้าว่าอยากใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงในที่ทำงานด้วย และขออนุญาตใช้ห้องน้ำหญิง ซึ่งหัวหน้าก็อนุญาต แต่ประเด็นก็คือ เธอกลับถูกกีดกัน ให้ใช้ห้องน้ำหญิงที่ไกลออกไปอย่างน้อย 2 ชั้น
เธอจึงร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (National Personnel Authority) ของญี่ปุ่น แต่ก็ถูกปฏิเสธ กระทั่งปี 2015 จึงฟ้องร้องรัฐบาลญี่ปุ่นกับศาลกรุงโตเกียว (Tokyo District Court) ซึ่งศาลตัดสินเข้าข้าง และให้รัฐบาลจ่ายค่าเสียหาย 1.3 ล้านเยน (ราว 325,000 บาท)
แต่ต่อมา ศาลสูงกรุงโตเกียว (Tokyo High Court) ก็พลิกคำตัดสินในปี 2021 ทำให้เธอยื่นฎีกาต่อศาลสูงสุดญี่ปุ่น ที่เพิ่งมีคำตัดสินออกมาเมื่อวานนี้ ที่เจ้าตัวก็มองว่า จะทำให้รัฐไม่สามารถ “เมินเฉยต่อความหนักแน่นของการตัดสินนี้ได้”
ทางด้านกระทรวงคู่กรณีเผยว่ารับทราบถึงคำตัดสินของศาลแล้ว และระบุว่า “จะดำเนินการต่อไปในการปรึกษาหารือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ได้พิจารณาถึงคำตัดสินของศาลสูงสุดอย่างถี่ถ้วนแล้ว” และย้ำว่า จะเคารพในความหลากหลายของพนักงาน
อย่างไรก็ดี แม้ศาลและสังคมญี่ปุ่นจะเปิดรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้นในช่วงหลัง แต่ข้อมูลสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2019 ของกระทรวงแรงงานญี่ปุ่น ระบุว่า มีบริษัทเพียง 14% เท่านั้น ที่อนุญาตให้พนักงานใช้ห้องน้ำที่ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศได้
ขณะที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นเพียงชาติเดียวใน 7 ประเทศกลุ่ม G7 ที่ยังไม่มีกฎหมายอนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันจดทะเบียนสมรส
อ้างอิงจาก