ก่อนจะโหวตนายกฯ ในอีกไม่กี่ชั่วโมง วันนี้ (21 สิงหาคม) ชลน่าน ศรีแก้ว ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง โดยมีพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติร่วมด้วย
“เพื่อไทยและพรรคการเมืองรวม 11 พรรค จำนวน 314 เสียง ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีการประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ ได้มีมติร่วมกันเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยต่อรัฐสภา เพื่อขอความเห็นชอบเป็นนายกฯ ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา” ชลน่าน กล่าว
รายชื่อพรรคการเมืองและจำนวนที่นั่งในรัฐบาลเพื่อไทย เป็นดังนี้
- เพื่อไทย 141 เสียง
- ภูมิใจไทย 71 เสียง
- พลังประชารัฐ 40 เสียง
- รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง
- ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง
- ประชาชาติ 9 เสียง
- ชาติพัฒนากล้า 2 เสียง
- เพื่อไทยรวมพลัง 2 เสียง
- เสรีรวมไทย 1 เสียง
- ท้องที่ไทย 1 เสียง
- พลังสังคมใหม่ 1 เสียง
ส่วนโผการนั่งตำแหน่งรัฐมนตรี มีการแบ่งสัดส่วนกัน ดังนี้
- ภูมิใจไทย ทำหน้าที่ รมว. 4 กระทรวง และ รมช. 4 ตำแหน่ง
- พลังประชารัฐ ทำหน้าที่ รมว. 2 กระทรวง และ รมช. 2 ตำแหน่ง
- รวมไทยสร้างชาติ ทำหน้าที่ รมว. 2 กระทรวง และ รมช. 2 ตำแหน่ง
- ชาติไทยพัฒนา ทำหน้าที่ รวม.1 กระทรวง
- ประชาชาติ รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
- เพื่อไทย รมว. 8 กระทรวง และ รมช. รมต.สำนักนายกฯ รวม 8 ตำแหน่ง
ชลน่านระบุว่า ทุกพรรคบรรลุข้อตกลงร่วมกันว่า จะนำนโยบายที่เพื่อไทยหาเสียงไว้เป็นนโยบายหลักของประเทศ เช่น ดิจิทัลวอลเลต, ที่ดินทำกิน, ค่าแรง 600 บาท, เงินเดือน 25,000 บาท, เกณฑ์ทหารสมัครใจ, เพิ่มราคาพืชผลการเกษตร, แก้ปัญหาเกษตร, แก้ปัญหาสามชายแดนใต้, กัญชาทางการแพทย์, และแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และยังคงไว้ในหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์
“พรรคร่วมจะนำนโยบายมาบูรณาการร่วม พร้อมปรับเสริมนโยบายของพรรคร่วมให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด และจะนำมาจัดทำเป็นนโยบายร่วมกัน เพื่อแถลงต่อรัฐสภาต่อไป”
“เพื่อไทยและพรรคร่วม กราบเรียนว่า ขณะนี้ ปัญหาเศรษฐกิจ คือปัญหาสำคัญลำดับแรกที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะประชาชนเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ธุรกิจขนาดเล็กและกลางได้รับการกระทบมานาน ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อนำไปสู่การสร้างความเชื่อมมั่นต่อประเทศไทย” ชลน่านกล่าว
ทั้งนี้ ชลน่านย้ำว่าไม่อาจเสียเวลาหรือจำนนต่อสถานการณ์ขัดแย้งที่ประเทศและประชาชนเสียโอกาสไปทุกขณะ ดังนั้น การตัดสินใจของเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ อยู่บนพื้นฐานการรับผิดชอบต่อประชาชนในสถานการณ์ที่ปัญหาทุกด้านส่งผลกระทบอย่างรุนแรง
จึงยืนยันว่า แม้เพื่อไทยจะเผชิญคำกล่าวหารุนแรง แต่ก็ตั้งใจจะมุ่งเป้าก้าวข้ามความขัดแย้ง และทำตามนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ
“เพื่อไทยมั่นใจว่า ใต้การนำของเพื่อไทย แม้จะมีอดีตพรรคการเมืองในรัฐบาลเดิมร่วมรัฐบาลด้วย แต่ทุกพรรคจะร่วมทำงานกับเพื่อไทยอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน และจะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรัก ความสามัคคี ปรองดอง และความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติและประชาชน” ชลน่าน กล่าว
หาก เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (22 สิงหาคม) ก็จะได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย และทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากตำแหน่งที่ทำงานมากว่า 9 ปี
อ้างอิงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=nhSgxz4YCgg