ไม่นานมานี้ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตระบุว่า เขาได้สั่งสินค้าที่ส่งผ่านบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง แล้วสินค้าติดอยู่ที่คลังถึง 4 วัน เขาจึงโทรตามทุกช่องทางเท่าที่หาได้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมา ก็มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตรายอื่นๆ ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน พร้อมกับมีความเห็นที่อ้างว่า เกิดสถานการณ์ที่พนักงานบริษัทขนส่งลาออกเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (11 ตุลาคม) The MATTER จึงได้ต่อสายหาเพจที่รายงานถึงประเด็นดังกล่าว รวมถึงอดีตพนักงานขนส่งบริษัทเอกชน และทางฝ่ายบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง เพื่ออธิบายเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น?
เล่าก่อนว่า บริษัทขนส่งบางแห่งจะมีการจ้างงานรูปแบบ ‘พนักงานประจำ’ ที่จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขนส่งพัสดุ และได้เงินเดือนประจำ แต่เพจที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราว ให้ข้อมูลว่า ได้รับรายงานจากพนักงานขนส่ง ที่อ้างว่าเขาถูกลดค่าคอมมิชชั่น ทั้งยังต้องส่งสินค้า 200-500 ชิ้น และทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึงเที่ยงคืนโดยไม่มี OT
เพจดังกล่าวยังระบุอีกว่า ปกติแล้ว พนักงานที่ไปรับของจากลูกค้า กับพนักงานที่ส่งของจะเป็นคนละคนกัน แต่บริษัทขนส่งแห่งหนึ่งให้พนักงาน 1 คน ต้องทำทั้งรับและส่งเอง ทั้งยังต้องวิ่งตามเป้าที่บริษัทกำหนด แต่สุดท้ายเมื่อไรเดอร์ไม่สามารถทำได้ ลูกค้าก็คอมเพลน แล้วไรเดอร์ก็จะถูกหักเงิน พนักงานจึงทยอยลาออกกัน
ข้อมูลดังกล่าวนี้ ก็สอดคล้องกับคำบอกเล่าของอดีตไรเดอร์คนหนึ่งที่อ้างว่า บริษัทจะให้ค่าคอมมิชชั่น 2-6 บาทต่อพัสดุ 1 ชิ้น และค่าน้ำมันวันละ 80 บาท แต่ถ้าวิ่งไม่ถึงเป้าที่บริษัทกำหนด ก็จะไม่ได้อะไรเลย
อดีตไรเดอร์ยังเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เขาสมัครเข้าไป มีข้อกำหนดว่าต้องส่งสินค้าให้ได้ตามจำนวนจุดที่กำหนดไว้ แต่พออยู่ไปนานๆ ก็มีการเพิ่มจำนวนขั้นต่ำที่ต้องส่งไปเรื่อยๆ
อดีตไรเดอร์ก็ระบุถึงประเด็นการถูกหักเงินหลังถูกคอมเพลนด้วยว่า เรื่องนี้จะว่าลูกค้าก็ไม่ได้ เพราะเขาต้องรอของ พอรอนาน ก็เลยต้องคอมเพลนที่คลังสินค้า ไรเดอร์ก็จะโดนหักเงิน และถ้าคอมเพลนบ่อยๆ ไรเดอร์ก็จะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น รวมถึงค่าน้ำมัน แต่มีบางเคสที่สามารถอธิบายลูกค้าได้ เพื่อให้ลูกค้าโทรศัพท์ไปหาที่สำนักงานใหญ่ ให้ยกเลิกการคอมเพลน
กรณีดังกล่าวนี้ อดีตไรเดอร์ก็ระบุว่าเคยมีการพูดคุยกับผู้จัดการสาขา แต่เขาก็บอกว่าเป็นคำสั่งลงมา แล้วบริษัทดังกล่าวก็เป็นบริษัทที่ค่อนข้างเข้า-ออกง่าย เมื่อพนักงานทนไม่ได้ก็จะลาออกไปเอง
ส่วนสาเหตุที่เขาลาออก ก็เพราะมองว่าค่าตอบแทนที่ได้ ไม่สอดคล้องกับงานที่เพิ่มขึ้น โดยเขาต้องเข้างานตั้งแต่เช้า เพื่อแยกว่าพัสดุแต่ละชิ้นอยู่ในพื้นที่ของใคร กระทั่งประมาณช่วงสายๆ ก็จะออกไปเพื่อส่งสินค้า แล้วจึงกลับเข้าไปรับของตอนบ่าย เพื่อออกไปส่งของให้ได้เรตในหลักกว่า 120 ชิ้นต่อวัน
เมื่อมีงานให้ไปรับสินค้าเข้ามา เขาก็ต้องแบ่งเวลาไปรับของ ซึ่งบางครั้งการรับของแต่ละครั้ง ก็ไม่สามารถรับได้ทั้งหมด หลังจากรับมาแล้วก็จะต้องนำไปเข้าคลัง ที่มีเรตประมาณ 1-2 บาท ซึ่งของอดีตไรเดอร์คนนี้มองว่าไม่คุ้ม
ความเห็นส่วนตัวของอดีตไรเดอร์คิดว่า ควรจะมีการแยกพนักงานที่รับของกับพนักงานที่ส่งของให้ลูกค้า
ทั้งนี้ ตอนที่อดีตไรเดอร์กรอกใบสมัครเข้าไปในบริษัท ก็ระบุว่า เข้างาน 7.00 น. เลิกงาน 17.00 น. แต่ในความเป็นจริงก็เลิกงาน 21.00-22.00 น. ทุกวัน และไม่มี OT ให้ เพราะต้องทำให้เสร็จ
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลอีกด้านหนึ่ง The MATTER ได้รับข้อมูลภายในบริษัทที่ชี้แจงว่า มีพนักงานบางกลุ่ม และบางคนที่ไม่พอในเรื่องของการปรับลดค่าตอบแทน ซึ่งการปรับลดค่าตอบแทนนี้ ทางบริษัทระบุว่า เป็นการปรับตามกลไกตลาดปกติ
บริษัทระบุว่า การปรับลดดังกล่าว เป็นการปรับลดปกติที่ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ หรือเฉพาะของทางบริษัท เพียงแต่ว่าเดิมที บริษัทดังกล่าวให้ค่าตอบแทนสูงสุดในตลาดขนส่ง แต่พอมีการปรับลดขึ้นมา ก็เป็นธรรมดาที่พนักงานจะไม่พอใจ จึงมีพนักงานบางส่วนลาออก หรือบางคนที่ไม่ออก ก็บ่น หรือออกมาโพสต์โจมตี
ส่วนค่าคอมมิชชั่นที่ให้พนักงาน บริษัทระบุว่า ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ โดยที่ผ่านมา ขนส่งของเรา มีค่าคอมมิชชั่นที่ค่อนข้างสูง เพียงแต่ว่าในการปรับแต่ละครั้ง ก็อาจจะทำให้มีพนักงานที่มองว่า เมื่อเขาย้ายมาจากที่อื่นเพราะหวังว่าที่นี่จะได้ค่าตอบแทนเยอะ แต่เมื่อบริษัทปรับลดลงมา เขาก็เลยไม่พึงพอใจมากกว่า ซึ่งไม่ใช่ทั่วประเทศ
ประเด็นการส่งพัสดุขั้นต่ำ 200-500 ชิ้นนั้น บริษัทกล่าวว่า “ส่งพัสดุ 500 ชิ้นต่อวันมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าเราจะสามารถให้พนักงานคนหนึ่งส่ง 500 จุดมันเยอะมาก มันไม่มีทางทัน อันนี้ก็ไม่เป็นความจริงเลย”
บริษัทยังระบุเพิ่มเติมว่า ความเป็นจริง กำหนดให้พนักงานขนส่งเฉลี่ยขั้นต่ำไม่เกิน 100 ชิ้นต่อวัน แต่ถ้าพนักงานคนไหนอยากได้ค่าตอบแทนเพิ่มเติม ก็จะส่งพัสดุเกินกว่านั้น
ทั้งนี้ ทางบริษัทขนส่งระบุด้วยว่า ประเด็นเรื่อง OT หรือการให้ทำงาน 18 ชั่วโมงนั้น ‘ไม่เป็นความจริง’ เพราะบริษัทมี OT อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนทำงานเท่าไร แต่การได้ OT ก็ขึ้นอยู่กับหน้างานของแต่ละบุคคลหรือแต่ละสาขาว่า พนักงานทำหน้าที่รับผิดชอบครบหรือยัง
ทางบริษัทยังระบุถึงเวลาการทำงานด้วยว่า พนักงานจะส่งพัสดุอย่างเดียวทั้งหมดในช่วงเช้า แล้วในช่วง 15.00-16.00 น. ก็ค่อยไปรับของ เพื่อนำเข้าในระบบ ซึ่งงานปกติ จะเลิกงานประมาณ 18.00-19.00 น. แต่บางวันที่พัสดุมาก ก็อาจจะเลิกช้าไปถึง 20.00-21.00 น. แต่ไม่มีการทำงาน 18 ชั่วโมงแน่นอน
ประเด็นเรื่องการคอมเพลน บริษัทระบุว่า เป็นปกติ แต่การหักเงินนั้น ก็จะหักต่อเมื่อปิดรับงานแล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทระบุว่า โดยปกติ ลูกค้าจะยกเลิกการร้องเรียน หลังจากที่พนักงานโทรไปชี้แจงแล้ว โดยข้อกำหนดดังกล่าวก็เป็นไปเพื่อป้องกันผลประโยชน์ของลูกค้า
ส่วนประเด็นที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตโพสต์ว่า มีของค้างอยู่ในคลังจำนวนมาก และมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าเกี่ยวกับการปรับลดค่าคอมมิชชั่น จนพนักงานขนส่งลาออกกันหรือเปล่านั้น ทางบริษัทชี้แจงว่า ประเด็นการปรับลดค่าคอมมิชชั่นไม่ใช่สาเหตุหลัก ขณะที่เงื่อนไขเรื่องการปรับลดค่าคอมมิชชั่นนั้น ก็มีการปรับลงตั้งแต่ช่วงปลายกันยายนแล้ว เพียงแต่มีพนักงานบางกลุ่มที่ไม่โอเคแล้วทยอยออก แต่ไม่ได้เป็นการลาออกแบบจำนวนมาก