เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อย เมื่อยูเนสโก (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียน สงกรานต์ไทย (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) ให้เป็นรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติในวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความยินดีเหล่านี้ ก็มีคำถามตามมาว่า แล้วหลังจากนี้สงกรานต์ไทยจะเป็นอย่างไรต่อ? The MATTER จึงต่อสายหา ‘สมฤทธิ์ ลือชัย’ นักวิชาการอิสระ เพื่อสอบถามข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าว
ก่อนจะไปถึงคำถามว่าด้วยผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ อ.สมฤทธิ์ก็กล่าวก่อนเลยว่า การที่ยูเนสโกประกาศให้สงกรานต์เป็นมรดกภูมิปัญญา เพราะทางยูเนสโกเห็นว่าสงกรานต์เป็นประเพณีที่สำคัญ และยังเป็นการให้เกียรติประเพณีของไทยอีกเช่นกัน
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าหลังจากยูเนสโกยกย่องสงกรานต์แล้ว จะช่วยดึงให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยมากขึ้นนั้น ในความเป็นจริง สงกรานต์ก็นับว่าเป็นที่รู้จักกันดีในต่างประเทศอยู่แล้ว อ.สมฤทธิ์จึงมองว่าส่วนนี้ไม่ได้มีผลเท่าไรนัก
อ.สมฤทธิ์อธิบายความเห็นของเขาเพิ่มเติมว่า เขาไม่ค่อยเชื่อในอิทธิพลของยูเนสโกมากเท่าไร เพราะถ้ามองในแง่ของการตลาด อาจารย์ไม่คิดว่าการที่ยูเนสโกประกาศให้สงกรานต์เป็นมรดกทางภูมิปัญญา จะช่วยทำให้คนสนใจมากขึ้น เพราะอย่างที่กล่าวไปว่า สงกรานต์เป็นที่รับรู้ในต่างประเทศมากมากมายก่อนหน้านั้นแล้ว
“เหตุการณ์นี้มันจะส่งผลกระทบในประเทศไทยมากกว่า” อ.สมฤทธิ์คาดการณ์ต่อว่า ประเทศไทยจะอาศัยช่วงเวลานี้ หันมาให้ความสำคัญกับสงกรานต์เพิ่มขึ้น มาเอาใจใส่ พัฒนาทำให้สงกรานต์ เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี อ.สมฤทธิ์เห็นว่า ก่อนที่ประเทศไทยจะเริ่มฉลองที่สงกรานต์ไทยได้เป็นมรดกทางภูมิปัญญา สังคมไทยควรหันมาให้ความเข้าใจว่าสงกรานต์คืออะไรให้แน่ชัดก่อน
เพราะหากถามถึงความหมายของสงกรานต์ แวบแรกของใครหลายคนก็อาจจะตอบว่าเป็นการสาดน้ำ ซึ่ง อ.สมฤทธิ์กล่าวว่าความหมายนั้นคือความหมายที่ใหม่มาก เพราะตามความหมายที่แท้จริงของสงกรานต์ หมายถึง ‘การเปลี่ยนผ่านของเวลา’
อ.สมฤทธิ์อธิบายต่อว่า สงกรานต์เป็นภาษาสันสกฤตที่แปลว่าการเคลื่อนย้าย เปลี่ยนผ่าน เพราะฉะนั้นในความหมายของไทย สงกรานต์จึงหมายความว่า ‘ปีใหม่’ ‘การขึ้นฤดูใหม่’ เป็นที่มาของการทำบุญ รดน้ำดำหัว ขอพรจากผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์ ส่วนการเล่นน้ำเป็นเรื่องผิวเผิน ไม่ใช่สาระสำคัญของประเพณี และบางคนก็เข้าไม่ถึง ‘แก่น’ ของสงกรานต์ที่เป็นเรื่องของการฉลองปีใหม่
“นี่คือประเด็นของมันที่ทำให้ผมเห็นว่า แล้วสงกรานต์ที่เขาบอกว่าเป็นมรดกโลก มันคืออะไร? ทุกคนก็บอกว่ามันคือประเพณีสาดน้ำ” อ.สมฤทธิ์กล่าว
ถ้าจะถามต่อว่าการที่คนนิยามว่าสงกรานต์คือการสาดน้ำนั้นผิดไหม? อ.สมฤทธิ์ก็ตอบชัดเจนเลยว่า ไม่ผิด จะเล่นน้ำกันก็ได้ เพราะมันสนุก คนจึงให้ความสำคัญมากกว่าอย่างอื่น เพียงแต่อย่าลืมว่าสงกรานต์คืออะไรเท่านั้นเอง เนื่องจากประเพณีก็ต้องมีความหมาย และนี่ก็ถือเป็นโจทย์ใหม่ที่สังคมควรจะเรียนรู้
อ.สมฤทธิ์ยังขอฝากอีกประเด็นหนึ่งทิ้งท้ายเอาไว้ก็คือ “เราควรที่จะพยายามรักษาความหมายดั้งเดิมของประเพณีเอาไว้ ไม่อย่างนั้นประเพณีมันก็จะไม่มีความหมายอีกต่อไป” ซึ่งคำว่า ‘เรา’ ในที่นี้ก็หมายความรวมถึงรัฐบาล ชุมชน และประชาชน ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน
อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก