ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หลัง 20 ปีแห่งความพลาดพลั้ง 140 นัดการแข่งขันแห่งความพ่ายแพ้ แต่ในที่สุด วันนี้ทีมฟุตบอลซานมารีโน ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งได้แล้ว!
ในศึกยูฟาเนชันส์ลีก ซานมารีโนเฉือนเอาชนะลิกเตนสไตน์ไปด้วยคะแนน 1-0 ประตู
ที่ผ่านมา ซานมารีโนถือเป็นทีมอันดับท้ายสุดของ FIFA หรือการจัดอันดับสหพันธุ์ฟุตบอลนานาชาติ จากการจัดอันดับรวมกว่า 210 ทีมชาติ เพราะตลอดประวัติศาสตร์พวกเขาสามารถเอาชนะได้เพียง 1 เกมเท่านั้นในปี 2004 ซึ่งมีคู่แข่งเป็นลิกเตนสไตน์เช่นกัน โดยลิกเตนสไตน์เป็นทีมที่จัดอยู่ในอันดับ 199
“ความทรงจำที่เลวร้ายที่สุดคือเกมเยือนเนเธอร์แลนด์ในปี 2011 ซึ่งจบลงด้วยสกอร์ 11-0” มัตเตโอ วิตาโอลี (Matteo Vitaioli) กล่าว “ตอนนั้นคะแนนของเนเธอร์แลนด์พุ่งไปถึง 8 หรือ 9 นัดแล้ว และยังมีเวลาเหลืออีกมาก และผมจำได้ว่าแฟนบอลเชียร์เนเธอร์แลนด์ให้ยิงประตูได้อีก”
แต่ในการแข่งขันครั้งนี้ พวกเขาก็ข้ามผ่านมันไปได้ เมื่อเซนโซลี (Sensoli) กองกลางวัย 19 ปี ยิงประตูได้ในนาทีที่ 53 ซึ่งเป็นการยิงเข้าครั้งแรกของซานมาริโนในเกมนี้ โดยเซนโซลีใช้โอกาสจากความผิดพลาดในแนวรับของ ซานโดร วีเซอร์ (Sandro Wieser) จากลิกเตนสไตน์ โดยจ่ายบอลเข้าประตูผ่านมือ เบนจามิน บูเคิล (Benjamin Buchel) ผู้รักษาประตู
แม้จะต้องใช้เวลาถึง 8 นาทีในการทดเวลาบาดเจ็บ และในช่วงท้ายเกมยังมีการป้องกันที่น่าหดหู่ แต่ที่ทำประตูไปได้ ก็เพียงพอแล้วที่จะยุติสถิติ ‘ไม่ชนะใครเลย’ ตลอด 140 นัดที่ผ่านได้สำเร็จ
เมื่อเกมสิ้นสุดลง ภาพของความรื่นเริงและฉลองชัยชนะจากฝั่งซานมารีโนก็ปรากฏขึ้น โค้ชและตัวสำรองวิ่งลงไปบนสนามเพื่อฉลองกับเพื่อนๆ ในขณะที่นักเตะลิกเตนสไตน์ล้มลงไปนอนกับพื้นหญ้า ซึ่งอาจจะเกิดากความผิดหวัง หรือรู้สึกอายก็เป็นได้
ไม่เพียงจะทำลายสถิติของตนเองเท่านั้น เพราะผลการแข่งขันนี้ ทำให้ซานมารีโนขึ้นไปอยู่ในกลุ่ม 3 ทีมเนชันลีกส์เรียบร้อยแล้ว.
ประเทศนี้อยู่ที่ไหนกันนะ?
ซานมาริโนเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีประชากรเพียง 30,000 คน ล้อมรอบไปด้วยอิตาลีฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ประเทศเพียง 61 ตารางกิโลเมตร จึงถือว่าเป็นประเทศที่เล็กที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยทีมฟุตบอลของพวกเขาจมดิ่งอยู่ท้ายตารางคะแนนของโลก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 เป็นต้นมา
ซานมารีโนต้องพบกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่หลายครั้ง นับตั้งแต่การแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 1990 และยังเคยแพ้มากถึง 13-0 ประตูให้กับเยอรมนีในปี 2006 และไม่เคยชนะการแข่งขันในรอบคัดเลือกสำหรับทัวร์นาเมนต์สำคัญเลย
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่อง ‘ว้าวๆ’ เกิดขึ้นกับทีมซานมารีโนเลย อย่างในปี 1993 พวกเขาได้สร้างปรากฏการณ์ที่สะเทือนทีมประเทศใหญ่ๆ มาบ้าง โดยทำสถิติทำประตูเร็วที่สุดในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก จากการทำประตูของ ดาวิด กวัลติเอรี (Davide Gualtieri) ที่ใช้เวลาเพียง 8 วินาทีเท่านั้นในการทำประตูระหว่างแข่งขันกับทีมอังกฤษ แต่แล้วก็พ่ายแพ้ไปด้วยคะแนน 7-1
ในช่วงเวลานั้น ซานมารีโนจึงได้อันดับฟีฟ่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ทีม ที่อันดับ 118 แต่นับจากนั้นซานมารีโนก็เต็มไปด้วยการพ่ายแพ้และการต่อสู้ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนกระทั่งถึงคืนนี้ ที่พวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่ง และเอาชนะตัวเองได้แล้ว
อ้างอิงจาก