ช่วงนี้สังคมกำลังพูดถึงเรื่อง ‘งบประกันสังคม’ โดยพูดถึงการบริหารกองทุนประกันสังคม ว่าเงินที่หลายคนจ่ายไปทุกเดือน ถูกใช้อย่างไรบ้าง? ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่า มีทั้งทริปดูงานต่างประเทศ ด้วยตั๋วเฟิร์สคลาส ค่าใช้จ่ายคอลเซนเตอร์ 100 ล้านบาท จนถึงผลิตปฏิทินด้วยงบ 450 ล้านบาท
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไรบ้าง และแต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นอย่างไร วันนี้ The MATTER สรุปให้อ่าน
- ‘HACK งบประกันสังคม 2025’ ที่จัดขึ้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ เป็นงานที่เปิดเผยผลการตรวจสอบการบริหารจัดการงบประมาณ ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ซึ่งนำโดยสส.พรรคประชาชน และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า รวมถึงคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ
- รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และโฆษกคณะกรรมาธิการฯ ระบุว่า “หากไม่มีบอร์ดประกันสังคม ซึ่งมาจากการเลือกตั้งประกันสังคมก้าวหน้า ประชาชนคงไม่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้” พร้อมสรุปประเด็นในงาน ดังนี้
- ประเด็นแรกคือ งบไปดูงานต่างประเทศ โดยเธอยกตัวอย่างทริปดูงานครั้งหนึ่ง ของเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม จำนวน 10 คน ในระยะเวลา 6 วัน 5 คืน ที่ใช้งบประมาณไป 2.2 ล้านบาท โดยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส ราคา 160,000 บาทไป 2 ที่นั่ง พร้อมจ่ายค่าที่พัก 16000 บาท/วัน/คืน
- ประเด็นที่สองคือ งบภาพรวมของสำนักงานฯ ซึ่งรักชนกระบุว่า “เพิ่มขึ้นทุกปี” และระบุงบแต่ละปี ดังนี้
ปี 2563 ใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท
ปี 2564 ใช้งบประมาณ 5,281 ล้านบาท
ปี 2565 ใช้งบประมาณ 5,332 ล้านบาท
ปี 2566 ใช้งบประมาณ 6,614 ล้านบาท
- รักชนกชี้แจงอีกว่า สำหรับงบประมาณคอลเซนเตอร์ หรือสายด่วนสำนักงานฯ เบอร์ 1506 มีค่าใช้จ่ายหลัก 100 ล้านทุกปี แต่สายกลับไม่เคยว่าง ทำให้เกิดคำถามว่า “มีความจำเป็นหรือไม่?”
- ประเด็นที่สามคือ งบประชาสัมพันธ์ ซึ่งในปี 2567 สำนักงานฯ ใช้งบประชาสัมพันธ์ไป 336 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนั้นใช้ผลิต ‘ปฏิทินประกันสังคม’ ไป 55 ล้านบาท โดยเธอระบุว่า “งบประมาณในการจัดทำปฏิทิน 8 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท”
- ประเด็นที่สี่คือ เทคโนโลยีสารสนเทศ เธอระบุว่า SSO+ หรือแอปพลิเคชันสำหรับบริการประกันสังคมครบวงจร เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณ 276 ล้านบาท สำหรับจัดทำระบบ โดยเมื่อตรวจสอบ พบว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีความผิดปกติ ในประเด็นการเสนอราคา รวมถึงประชาชนให้คะแนนแอปฯ นี้เพียง 1.5 จาก 5 ดาว ซึ่งเธอบอกว่า “แสดงถึงความล้มเหลวของแพลตฟอร์ม ไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบประมาณที่ใช้ไป”
- ประเด็นต่อมาคือ พื้นฐานประกันสังคม เธอกล่าวว่าขั้นตอนในการเข้าถึงประกันสังคม เข้าใจยากสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยคอนเทนต์ของสำนักงานฯ ส่วนใหญ่ไม่ทันยุคสมัยและเข้าใจยาก ซึ่งย้อนแย้งกับงบประมาณ
- หลังจากนั้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ได้บอกกับมติชน ว่าเขายังไม่ทราบรายละเอียดกรณีนี้อย่างชัดเจน แต่จะให้ทางสำนักงานฯ ออกมาชี้แจงเพิ่มเติม
- บุญสงค์กล่าวเสริมว่า “เบื้องต้นขอยืนยันว่า ไม่กระทบกับผู้ประกันตนแน่นอน เพราะอยู่คนละส่วนกัน” พร้อมกล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะไม่กระทบต่อผู้ประกันตน เพราะผู้ประกันตนต้องได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามที่ได้ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม โดยเขาย้ำว่า “และที่สำคัญการใช้งบประมาณทำกิจกรรมต่างๆ เป็นผลตอบแทนตามที่ สปส.ได้มาเพื่อใช้จ่ายให้ตามระเบียบ”
- ล่าสุดวันนี้ (18 กุมภาพันธ์) พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่เกิดขึ้น
- สำหรับการไปดูงานต่างประเทศ พิพัฒน์กล่าวว่า หลักปฏิบัติของแต่ละกระทรวงมีอยู่แล้ว ว่าผู้บริหารระดับใดสามารถโดยสารเครื่องบินในชั้นใดได้บ้าง และสำหรับการเดินทางไกล ผู้เป็นรัฐมนตรีในฐานะเจ้ากระทรวง ก็สามารถโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสได้ ในขณะที่ระดับปลัดกระทรวงและอธิบดี ก็จัดอยู่ในชั้นบิซิเนสคลาส และถือเป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันมาปกติ
- ส่วนเรื่อง งบประชาสัมพันธ์ เขาระบุว่าด้วยหลักเกณฑ์ประกันสังคม สามารถนำเงินประกันสังคม มาเพื่อการบริหารจัดการเรื่องการประชาสัมพันธ์ได้ 10% ซึ่งในขณะนี้ สำนักงานฯ ใช้อยู่ที่ประมาณ 3% ทั้งนี้พิพัฒน์กล่าวว่า
- “ขอถามว่าเราใช้เต็มเพดานแล้วหรือไม่ ฉะนั้นคนที่จะออกมาพูดช่วยกรุณา ดูหลักเกณฑ์ด้วย ตนคิดว่าการที่ประกันสังคมนำมาใช้แค่ 3% เราคิดว่าเป็นการพยายามประหยัดงบประมาณให้กับผู้ประกันตนแล้ว”
- มาที่ประเด็นเรื่องปฏิทิน เขากล่าวว่า งบ 400 กว่าล้านบาทนั้น คือค่าใช้จ่ายของ 8 ปี ไม่ใช่ปีเดียว ดังนั้นการจั่วหัวมาว่า 400 กว่าล้านบาท แต่ไม่ได้ดูว่ากี่ปี อาจมีเจตนาไม่ดี เพราะจะเป็นการเหมารวม และขอให้มีจรรยาบรรณในการพูด พร้อมย้ำว่าสำนักงานประกันสังคมมีมาตรการ ใช้งบประมาณอย่างประหยัด
- เมื่อนักข่าวถามว่า “การจัดทำปฏิทินปีละ 50 ล้าน มีความเหมาะสมหรือไม่?” พิพัฒน์ตอบว่าคิดว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม โดยต้องดูว่าพิมพ์กี่ฉบับ ซึ่งการใช้ปฏิทินเพื่อประชาสัมพันธ์ นับว่ามีคุณค่าและความจำเป็นกับคนบางกลุ่ม
- ส่วนเรื่องคอลเซนเตอร์ พิพัฒน์ตอบนักข่าวว่า ถ้าโทรไปไม่มีคนรับ ถามว่าโทรกี่ครั้ง ซึ่งคอลเซนเตอร์อาจจะติดสายอยู่ก็ได้ อีกทั้งช่วงเวลาที่มีความเดือดร้อนนั้น แน่นอนว่าทุกคนก็พยายามโทร แต่เมื่อไม่มีการตอบรับทันที ก็คิดว่าเขาไม่รับสาย ซึ่งจริงๆ อาจจะเป็นสายซ้อนก็ได้
- เขาบอกว่า คอลเซนเตอร์ส่วนอื่นๆ ก็เป็นคล้ายๆ กัน เพราะอาจมีบางช่วงเวลาที่คนโทรมาแน่นมาก และถ้าโทรแล้วรับทันที ก็ถือว่าวันนั้นเป็นจังหวะว่าง หรือผู้นั้นโชคดีที่โทรไปแล้วว่างพอดี
- “คนที่ออกมาให้ข่าวกรุณาทบทวนตัวเอง ว่าสิ่งที่พูดออกมามีข้อเท็จจริงขนาดไหน ซึ่งผมไม่มีปัญหาท่านจะมาพบผมที่กระทรวงก็ได้ จะถามในสภาฯ ก็พร้อม หรือสุดท้ายท่านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมก็ยินดีที่จะตอบทุกคนถาม” พิพัฒน์กล่าว พร้อมยืนยันว่ากระทรวงแรงงานมีความโปร่งใส
- “ขอให้ผู้ประกันตนสบายใจได้ว่าประกันสังคมทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ที่สำคัญบอร์ดประกันสังคมก็มาจากการเลือกตั้ง” เขาเน้นย้ำ
อ้างอิงจาก