เราอาจจะเคยเห็นคำว่า She/Her, He/Him หรือ They/Them ตามประวัติส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ระบุขึ้นมา เพื่อบอกกล่าวอัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลนั้นๆ และถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย แม้กระทั่งบนลายเซ็นท้ายอีเมล
แต่ล่าสุด มีรายงายว่า ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ มีนโยบายสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐระบุสรรพนามที่ต้องการใช้เป็นลายเซ็นอีเมล โดยให้เหตุผลว่ามันเป็น ‘อุดมการณ์ทางเพศที่ถูกใช้ในทางที่ผิด’ ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเอากฎเหล่านี้มาใช้กับนักข่าวในทำเนียบขาว และปฏิเสธการตอบคำถามนักข่าวเพราะพวกเขาใช้สรรพนามระบุไว้ท้ายอีเมล
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ตามนโยบายแล้ว เราจะไม่ตอบคำถามนักข่าวที่ใช้สรรพนามในประวัติส่วนตัว ขณะที่ เคธี่ มิลเลอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสของกรมประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) บอกเช่นกันว่า จะไม่ตอบคำถามของคนที่ใช้สรรพนามท้ายอีเมล เพราะมันแปลว่าพวกเขาเพิกเฉยต่อความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ และเพราะสิ่งนี้ที่ทำให้พวกเขาเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริง
สำหรับนักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอนุรักษ์นิยม มองว่าสรรพนามเหล่านี้เป็นการตื่นรู้ที่ก้าวหน้าเกินไป และประณามว่ามันเป็นความพยายามที่จะบอกว่าการมีเพศทางชีววิทยามากกว่า 2 เพศ (ชาย,หญิง) เป็นเรื่องปกติ
“นักข่าวคนไหนที่เลือกใส่คำสรรพนามที่ตัวเองชอบในประวัติส่วนตัวนั้น ชัดเจนแล้วว่าไม่ได้สนใจความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจึงไม่สามารถไว้วางใจได้ว่าจะเขียนข่าวออกมาอย่างซื่อสัตย์ได้” ลีวิตต์ กล่าว
ขณะที่ สตีเวน เชียง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาวเขียนในอีเมลด้วยว่า หากนิวยอร์กไทมส์ (The New York Times) ใช้เวลารายงานความจริงให้เท่าๆ กับที่หมกมุ่นอยู่กับคำสรรพนาม อาจเป็นสื่อที่ดีได้
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้ประกาศตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งว่า ‘เพศ’ มีอยู่ 2 เพศ คือหญิงและชายเท่านั้น และได้ออกนโยบายที่ห้ามคนข้ามเพศเข้ารับราชการทหาร ห้ามเด็กผู้หญิงข้ามเพศ และหญิงข้ามเพศเข้าแข่งกีฬาของผู้หญิง และยกเลิกการคุ้มครองตามกฎหมายต้านการเลือกปฏิบัติ
อ้างอิงจาก
