เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายยิงชาวบ้าน 2 เหตุการณ์ที่ จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายรายและผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่งรวมถึง ด.ญ.สสิตา จันทร์คง วัย 9 ขวบที่เป็นผู้พิการทางการได้ยิน และนางสง่า แสงย้อย หญิงพิการตาบอดวัย 76 ปี
เหตุการณ์ความรุนแรงและความสูญเสียที่เกิดขึ้น ได้ทำให้คำถามถึงสถานการณ์ ‘ไฟใต้’ ในประเทศไทยอีกครั้ง
หลายคนถือว่าเหตุการณ์วันที่ 4 มกราคม 2547 คือ ‘จุดเริ่มต้น’ ของสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ โดยในครั้งนั้น มีการปล้นปืน 413 กระบอก จากค่ายปิเหล็งหรือกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch) ระบุว่านับตั้งแต่เหตุการณ์ปล้นปืนค่ายปิเหล็งในปี 2547 จนถึงวันที่ 30 มีนาคม 2568 เกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ 4 อำเภอในสงขลา (ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) ไปแล้ว 23,083 เหตุการณ์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บรวม 14,547 ราย และผู้เสียชีวิต 7,705 ราย
จากความสูญเสียอันประเมินค่าไม่ได้ ทำให้ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ตามเข้ามาสู่การบริหารประเทศ ก็จะมีโจทย์ใหญ่ที่สังคมจับตาคือ การแก้ไขสถานการณ์ให้กลับมาสู่ความปกติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกลไกแก้ไขความขัดแย้งอย่างการเปิดโต๊ะเจรจาสันติภาพ
ถ้าหากย้อนกลับไปดูผลงานที่ผ่านมา เราอาจเห็นความพยายามของหลายรัฐบาลมาแล้วหลายครั้ง ทั้งกำหนดนโยบาย จัดตั้งหน่วยงานมาดูแล พูดคุยระหว่างฝ่าย จนถึงการตั้งโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ
แล้วในช่วง 10 ปีย้อนหลังนี้ รัฐบาลไทยมี ‘การเจรจาอย่างเป็นทางการ’ อย่างไรบ้าง? วันนี้ The MATTER ขอสรุปไทม์ไลน์บางส่วนดังนี้
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (หลังการเลือกตั้งปี 2562)
20 มกราคม 2563 : การเจรจาเพื่อดับไฟใต้อย่างเป็นทางการ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้แทนกลุ่ม BRN (Barisan Revolusi Nasional) หรือกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นกองกำลังหลักที่ก่อความไม่สงบในชายแดนภาคใต้
BBC Thai รายงานถึงความเห็นจาก พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าพูดคุยสันติสุขในครั้งนั้นว่า การเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเจรจากับกลุ่ม BRN
2–3 มีนาคม 2563 : การเจรจาอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้แทนกลุ่ม BRN ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยครั้งนี้เน้นหารือด้านการประสานงาน และการบริหารจัดการกระบวนการพูดคุยฯ
แต่หลังจากนั้นในวันที่ 3 เมษายน 2563 BRN มีแถลงการณ์หยุดกิจกรรมความเคลื่อนไหวทั้งหมดชั่วคราว เนื่องจากเกิดสถานการณ์ COVID-19 จึงต้องการเปิดทางให้ประชาชนได้เข้าถึงความช่วยเหลือที่จำเป็น ทำให้การเจรจาต้องหยุดชะงักไประยะหนึ่ง
21 ธันวาคม 2564 : พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ (คปต.) ในขณะนั้น ได้ประกาศเป้าหมาย “ไฟใต้ต้องมอดดับ ปี 2570”
11–13 มกราคม 2565 : หลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย รัฐบาลไทยและกลุ่ม BRN ก็มีการเจรจาอีกครั้งในรอบเกือบ 2 ปี ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกัน ในหลักการ 3 ข้อ คือ ลดความรุนแรง การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ และแสวงหาทางออกทางการเมือง
21-22 กุมภาพันธ์ 2566 : การพูดคุยสันติสุขฯ ที่ประเทศมาเลเซีย และเกิดข้อตกลงจัดทำ ‘แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบครอบคลุม’ (Join Comprehensive Plan towards Peace หรือ JCPP) ซึ่งเป็นกรอบการพูดคุยระหว่างปี 2566–2567
ยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
11 ตุลาคม 2566 : สภาฯ ก็เห็นชอบให้ตั้ง ‘กมธ.สันติภาพชายแดนใต้’ หรือชื่อเต็มๆ ว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี จาตุรนต์ ฉายแสง เป็นประธาน นับเป็นอีกหนึ่งกลไกผลักดัน
27 พฤศจิกายน 2566 : แต่งตั้ง ฉัตรชัย บางชวด เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยฯ คนใหม่ โดยนับเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยฯ พลเรือนคนแรก
6 กุมภาพันธ์ 2567 : Policy Watch จาก ThaiPBS รายงานว่า การพูดคุยระหว่างฝ่ายรัฐไทยและ BRN ได้ข้อตกลงสามข้อคือ ร่วมกันลดความรุนแรง ปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ และหาทางออกทางการเมือง นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ อดีตนายกฯ เศรษฐา ยังได้เดินทางไปยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นย้ำถึงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่
รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
วันนี้ (6 พฤษภาคม 2568) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่านายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ได้มอบหมายให้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เร่งแก้ไขปัญหานี้โดยด่วน อีกทั้งยังมอบหมาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ปัญหาและดูแลประชาชนในพื้นที่
หลังจากนี้ คงต้องจับตาดูกันว่า เมื่อความรุนแรงครั้งล่าสุดได้เกิดขึ้นมา และสร้างความสะเทือนใจให้กับคนทั้งสังคมอีกครั้งนั้น จะส่งผลให้การเจรจาสันติภาพเดินต่อไปได้หรือไม่ และจะเดินต่อไปในรูปแบบใด
อ้างอิงจาก