เมื่อวันอาทิตย์ (25 พฤษภาคม 2568) ที่ผ่านมา เราคงจะเห็นผ่านโซเชียลมีเดียกันบ้างแล้วสำหรับ ‘งานวิ่งทิพย์’ หรือ Run For Destination 2025 ซึ่งเป็นงานวิ่งที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ ที่สวนหลวง ร.9 แต่เมื่อนักวิ่งมารวมตัวกันที่สวนตอนเช้ามืดแล้ว กลับไร้วี่แววผู้จัดงาน เหลือไว้แต่ซุ้มประตูที่สกรีนว่า 28 MAY 2028 ซะอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ The MATTER มาสรุปให้อ่าน
- เริ่มจากเฟสบุ๊ก Run Destination โพสต์ข้อความเชิญชวนให้คนมาเข้าร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่ง Run for Destination 2025 โดยบอกว่าผู้สมัครจะได้รับเสื้อ, หมวก, กระเป๋าเป้ และนาฬิกา Smart watch และผู้ที่เข้าเส้นชัยจะได้รับเหรียญที่ระลึกแถมยังมีเงินรางวัลและถ้วยรางวัลสำหรับคนที่ติดโพเดียมด้วย
- ซึ่งค่าสมัครวิ่งก็อยู่ระหว่าง 550 – 2,000 บาท ซึ่งผู้ที่สมัครแพคเกจ VIP ราคา 2,000 บาทจะได้รับ เสื้อ, หมวก, กระเป๋าเป้, นาฬิกา Smart watch, เสื้อวอร์ม และรองเท้าวิ่งด้วยอีกหนึ่งคู่ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบของที่ได้รับกับราคาค่าวิ่งกับสนามอื่นๆ แล้ว สนามนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่าน่าสนใจเลยทีเดียว และแน่นอนว่ามีผู้สมัครไปมากกว่าพันคน
- คืนก่อนวันเริ่มงาน (24 พฤษภาคม) เฟสบุ๊กดังกล่าวก็ยังคงโพสต์ข้อความตอนราวๆ 23.00 น. ระบุข้อความว่า พบกันพรุ่งนี้ และยังเปิดรับสมัครนักวิ่งหน้างานในราคา 450 บาททุกระยะทางด้วย
- แต่ทุกอย่างกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อเช้ามืดของวันที่ 25 พฤษภาคม นักวิ่งหลายคนมารวมตัวกันที่สวนหลวง ร.9 และก็พบว่าสวนปิดไฟมืด ไม่เหมือนมีงานอีเวนต์ และยังไร้วี่แววผู้จัดงานด้วย ทำให้หลายๆ คนงง
- เมื่อเริ่มสังเกตไปรอบๆ ก็พบอีกว่า ป้ายบนซุ้มประตูงาน ระบุข้อความว่า ‘RUN FOR DESTINATION SUNDAY 28 MAY 2028 @ SUANLUANG RAMA9’ นั่นทำให้นักวิ่งยิ่งงงมากกว่าเดิม และเริ่มตั้งคำถามว่า นี่เรามาผิดวันหรือผู้จัดพิมพ์ผิด เพราะวันวิ่งมันอีกตั้ง 3 ปีข้างหน้า
- เรื่องป้ายยังไม่ทันได้คำตอบ แถมยังได้ความงงเพิ่มขึ้นไปอีก นักวิ่งเริ่มโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง บางคนบอกว่านี่เป็นงานวิ่งครั้งแรกของตัวเองแท้ๆ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ขณะที่บางคนเรียกร้องอยากได้เงินคืน และเสียความรู้สึก
- จนกระทั่งช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ ตำรวจ สน.ประเวศ ได้ทำการสอบปากคำ สุชานันท์และมนฤดี 2 ผู้จัดงานวิ่ง รวมทั้งทนายความ โดยสุชานันท์อ้างว่า ได้เปิดบริษัทร่วมกันเพื่อรับงานอีเวนต์หลายอย่างแต่งานวิ่งถือเป็นครั้งแรก ยอมรับว่าขาดประสบการณ์ แต่ได้มีการขออนุญาตจากสำนักงานเขต และสวนหลวงร.9 อย่างถูกต้องแล้ว
- ในตอนแรกงานวิ่งดังกล่าวจะจัดขึ้นช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความที่มีผู้สมัครน้อย (ไม่ถึง 100 คน) จึงต้องเลื่อนงานออกไปและชดเชยให้กับผู้สมัครล็อตแรก หลังจากนั้นได้นัดคุยกับออแกไนซ์เจ้าหนึ่งที่มีประสบการณ์จัดงานโดยเฉพาะ
- ผู้จัดอ้างว่า เมื่อใกล้วันงานออแกไนซ์ที่รับงานไว้ก็ยกเลิกกะทันหัน ทำให้ต้องเร่งหาออแกไนซ์มารับงานต่อ แต่เนื่องจากมีการจัดงานวิ่งในหลายพื้นที่เลยทำให้บริษัทออแกไนซ์ต่างๆ เต็มหมดแล้ว จึงดำเนินการด้วยตัวเองเท่าที่จะทำได้ และยอมรับว่าป้ายไวนิลที่ซุ้มประตูงานที่ระบุปี 2028 นั้นก็เกิดจากความผิดพลาดของตนเช่นกัน
- ในส่วนของการเยียวยาทางผู้จัดกำลังหารือกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง แต่คาดว่าจะต้องเป็นการทยอยชดเชยให้กับนักวิ่ง ในขณะที่นักวิ่งบางคนยังได้ของไม่ครบ เช่น เสื้อวิ่ง ซึ่งทางผู้จัดบอกว่า ตนก็มีปัญหาเรื่องดีลจำหน่ายเสื้อวิ่ง และได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
- อีกประเด็นที่นักวิ่งมองว่างานวิ่งนี้มีความน่าเชื่อถือ คือบริษัทที่จัดงาน ต้นสนเก้าเก้า สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตรวจสอบไปแล้วเป็นบริษัทที่ใช้ทุนจดทะเบียนหนึ่งล้านบาท ขณะที่มีสปอนเซอร์เป็น MK อีก เลยยิ่งทำให้น่าเชื่อถือกว่าเดิม
- ด้าน MK ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงโดยระบุว่า สนับสนุนงานวิ่ง Run for Destination 2025 จริง แต่ขอยืนยันว่าทางบริษัทฯ ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน และการยกเลิกงานแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้สนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งตามที่ผู้จัดงานนำเสนอเท่านั้น
- ด้านทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์ข้อความวิเคราะห์คดีงานวิ่งดังกล่าวผ่านเพจทนายคู่ใจ โดยเรียงลำดับเหตุการณ์และวิเคราะห์ทางกฎหมายไว้ว่า จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นมีความผิดทางอาญา ฐานฉ้อโกงประชาชน, มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในขณะที่ทางแพ่ง ผิดสัญญาและละเมิด
- ในส่วนของแนวทางการฟ้องร้องของผู้เสียหาย ทนายรณรงค์กล่าวว่า ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้ทั้งทางอาญาและแพ่ง โดยทางอาญาให้แจ้งความรวมที่ สน.ประเวศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ตำรวจเปิดไว้ ส่วนทางแพ่ง อาจรวมตัวกันฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่ม (class action) หรือฟ้องรวมโดยมอบอำนาจให้ทนายความดำเนินการแทน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและความซ้ำซ้อนของคดี