ชายคนหนึ่งถูกพบเสียชีวิต “นอนจมกองเลือด” ในงานเทศกาลดนตรีชื่อดังอย่าง Burning Man ที่จัดขึ้นในทะเลทรายเนวาดา โดยเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนในข้อหา ‘ฆาตกรรม’
Burning Man ถือเป็นหนึ่งในงานเทศกาลศิลปะและดนตรีชื่อดังระดับโลก ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1986 โดยเป็นที่รู้จักจากแนวคิดที่ผู้คนมาร่วมงาน เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระพร้อมปลดปล่อยความคิดและตัวตน อีกทั้งในคืนก่อนสิ้นสุดเทศกาลทุกปี จะมีการเผาหุ่นจำลองมนุษย์ไม้ขนาดยักษ์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์อีกด้วย
สำหรับปีนี้คาดกันว่า มีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน โดยหลั่งไหลมาตั้งแคมป์กลางทะเลทรายอันรกร้างว่างเปล่าและห่างไกล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองรีโน (Reno) รัฐเนวาดา ตั้งแต่วันที่ 24-25 สิงหาคม เพื่อร่วมเฉลิมฉลองศิลปะ ดนตรี และเสรีภาพส่วนบุคคล เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า พบชายคนหนึ่งเสียชีวิต ณ งานเทศกาลแห่งนี้ โดยสำนักงานนายอำเภอกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปที่บริเวณที่ตั้งแคมป์ทันที และพบชายผิวขาววัยผู้ใหญ่คนหนึ่ง นอนนิ่งอยู่บนพื้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเสียชีวิตแล้ว
แม้จะยังไม่ทราบตัวตนของชายคนดังกล่าว และยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ระบุว่า เหตุการณ์นี้จะดูเหมือนเป็น ‘อาชญากรรมที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว’ พร้อมแจ้งเตือนให้ผู้ร่วมงานทุกคนควรระมัดระวังตัว
ด้านผู้จัดงาน Burning Man ได้มีแถลงการณ์ขอให้ผู้ที่ยังอยู่ในบริเวณพื้นที่จัดงาน อย่าแทรกแซงการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พร้อมย้ำว่า “ความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนของเราเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุเลวร้ายขึ้นในเทศกาลแห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์ผู้เสียชีวิตในงานมาก่อน หนึ่งในนั้นคือ แอรอน โจเอล มิทเชล (Aaron Joel Mitchel) วัย 41 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากที่เขาวิ่งเข้าไปในกองไฟ ซึ่งกำลังแผดเผาหุ่นจำลองมนุษย์ไม้ขนาดยักษ์ ในค่ำคืนของงาน Burning Man นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ในปี 2023 ที่ผู้คนกว่า 70,000 คน ต้องติดอยู่กลางทะเลทราย หลังจากฝนตกหนักจนพื้นดินในงาน กลายเป็นบ่อโคลน และทำให้ยานพาหนะไม่สามารถเข้าออกงานได้
แม้ที่ผ่านจะมีรายงานผู้เสียชีวิตที่ Burning Man หลายครั้งจากหลายสาเหตุ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีการสืบสวนคดีฆาตกรรม
อ้างอิงจาก
