จะดีแค่ไหนเมื่อ AI สามารถทำให้เรามีความปลอดภัยในการขับรถมากขึ้น Bosch บริษัทด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีจากเยอรมัน กำลังพัฒนา ‘ระบบสังเกตการณ์ภายใน (interior monitoring system)’ สำหรับรถยนต์ ที่จะช่วยป้องกันภาวะหลับใน และปัญหาอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้
ระบบนี้จะใช้งานกล้องหลายตัว ซึ่งจะถูกติดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในรถยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ ทำให้มันสามารถตรวจจับได้ว่าคนขับรถกำลังง่วง หรือกำลังถูกรบกวนโดยอะไรบางอย่างอยู่หรือไม่
กล้องที่ถูกติดตั้งที่พวงมาลัยรถยนต์ จะเช็คคนขับรถ เพื่อดูว่าพวกเขากำลังเล่นโทรศัพท์ เสี่ยงต่อการหลับใน หรือ กำลังหันหน้าไปยังเบาะที่นั่งของคนอื่นอยู่หรือไม่
ส่วนกล้องที่ติดตั้งที่กระจกมองข้างมีระบบที่สามารถประเมินและส่งสัญญาณเตือนในเรื่องที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น การไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยมีปัญหา
AI จะผ่านการพัฒนาอัลกอริทึม โดยการเรียนรู้จากคลิปบันทึกสถานการณ์การขับรถจริง มันสามารถประเมินความเหนื่อยล้าของคนขับรถได้ โดยอิงจากตำแหน่งของเปลือกตา และอัตราการกระพริบตา
หลังจาก AI ได้ประมวลข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมาแล้ว มันสามารถทำได้ทั้งเตือนคนขับ แนะนำให้ไปพักผ่อนเมื่อเห็นว่าพวกเขาเหนื่อย หรือแม้กระทั่งลดความเร็วของรถลง โดยทางบริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการบันทึกหรือส่งต่อข้อมูลไปยังบุคคลที่สาม
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางรัฐสภายุโรปได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่า ภายในกลางปี ค.ศ.2022 รถยนต์คันใหม่ที่เข้าสู่ตลาดของสหภาพยุโรป จะต้องมีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบเตือนหลับในขณะขับขี่ ระบบตรวจจับการขับรถย้อนกลับ สัญญาณหยุดรถฉุกเฉิน เป็นต้น ซึ่ง Bosch จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีเหล่านั้น
.
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2019/12/27/business/technology-detects-drowsy-drivers/index.html
https://www.cnbc.com/2019/12/17/bosch-develops-ai-system-in-cars-to-detect-distracted-tired-drivers.html
https://www.consilium.europa.eu/en/press/press-releases/2019/11/08/safer-cars-in-the-eu/
พิสูจน์อักษร: พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์
#Brief #TheMATTER
