ในสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังเจอกับวิกฤตโรคระบาด COVID-19 เรื่องการเมืองระหว่างประเทศของ สหรัฐฯ จีน และองค์กรอนามัยโลก (WHO) ก็ยังคงเดือดไม่แพ้กัน หลังจากที่ตีกันมาหลายรอบ ล่าสุดทรัมป์เองก็ได้ส่งจดหมายให้ WHO พร้อมส่งคำขู่ว่า ถ้าไม่เปลี่ยนแปลง จะตัดงบประมาณเงินสนับสนุน พร้อมยังวิจารณ์ความสัมพันธ์ของ WHO กับประเทศจีนอีกครั้งด้วย
ทรัมป์ ได้จ่าหน้าจดหมายนี้ถึง ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผอ.ของ WHO และวิจารณ์การทำงานของ WHO อีกครั้ง ตั้งแต่เรื่องการตอบสนองต่อการรับมือของไวรัส ตั้งแต่เดือนธันวาคม “เป็นที่แน่ชัดว่า การกระทำผิดซ้ำๆ ของคุณ และองค์กรของคุณในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่นั้น ส่งผลอย่างมหาศาลต่อโลก” ทั้งทรัมป์ยังระบุว่า WHO ต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระจากจีน
ในจดหมายนั้น ทรัมป์ยังได้กำหนดเดดไลน์ให้ WHO เป็นเวลา 30 วัน หากไม่มีการมุ่งมั่นปรับปรุงที่สำคัญ จะถอนการสนับสนุน และการเป็นสมาชิกจาก WHO อย่างถาวรด้วย ซึ่งนอกจากนี้ จดหมายนี้ยังอ้างถึงประเด็นต่างๆ ในการดำเนินการที่ผิดพลาดของ WHO อย่าง การชะลอการประกาศภาวะฉุกเฉิน ภายใต้แรงกดดันจาก ปธน.สี จิ้นผิง ของจีน, การยกย่องจีนว่าจัดการอย่างโปร่งใส ทั้งๆ ที่มีการเซ็นเซอร์ และไม่ให้ความร่วมมือระหว่างประเทศ และยังเปรียบเทียบว่า ทีโดรสอาจช่วยคนได้อีกหลายชีวิต หากปฏิบัติตามอย่าง ดร. ฮาร์เล็ม บรันด์แลนด์ ผอ. WHO ในช่วงการระบาดของโรคซาร์ส
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เองก็ได้วิจารณ์ WHO ว่าเป็น ‘หุ่นเชิดของจีน’ ทั้งทรัมป์เองก็ได้ระงับการให้เงินสนับสนุนแก่ WHO แล้วเป็นการชั่วคราวก่อน ซึ่งการออกมาวิพากษณ์วิจารณ์ และส่งจดหมายในรอบนี้ ก็ได้เกิดขึ้นหลังทีมบริหารของสหรัฐฯ ได้กดดัน WHO อย่างต่อเนื่องถึงการรับมือกับโรคระบาด โดยอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา ก็ได้กล่าวในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกของ UN ว่า WHO ปล่อยให้ COVID-19 อยู่นอกเหนือการควบคุม ซึ่งส่งผลต่อหลายชีวิตด้วย
ความบาดหมางระหว่างสหรัฐฯ จีน และ WHO ถูกมองว่าเป็นเกมการเมืองอย่างหนึ่งที่แต่ละประเทศใช้เพื่อโจมตีกัน ขณะที่ในประเทศเอง ทรัมป์ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในการจัดการกับโรคระบาดในประเทศ ทั้งในปีนี้ ที่จะมีการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ก็มีการมองว่า ทรัมป์จุดประเด็นโจมตีจีน และ WHO เพื่อปลุกกระแส และคะแนนเสียงจากกลุ่มชาตินิยมขึ้นมาด้วย
ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดในสหรัฐฯ ที่ยังคงน่ากังวล โดยพบผู้ติดเชื้อในประเทศมากกว่า 1.5 ล้านรายแล้ว และมีผู้เสียชีวิตถึง 9 หมื่นคน ซึ่งนอกจากการวิจารณ์ WHO แล้ว ในวันนี้ทรัมป์ยังได้เผยว่า เขาได้เริ่มกินยาไฮดรอกซีคลอโรควิน หรือยารักษาโรคมาลาเรียเป็นประจำทุกวัน นาน 2-3 สัปดาห์แล้ว เพื่อป้องกัน COVID-19 แม้ว่าจะมีแพทย์ออกมาเตือนว่า ไม่มีงานวิจัยว่ายาดังกล่าวได้ผล แต่กลับอาจส่งผลข้างเคียงรุนแรง ทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-52718309
https://edition.cnn.com/2020/05/18/politics/trump-world-health-organization-coronavirus/index.html
#Brief #TheMATTER
