นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดแถลงข่าว หลังมีเสียงวิจารณ์เรื่องการติดเชื้อโควิดของผู้ที่เดินทางมาต่างประเทศ แล้วได้รับการยกเว้น ไม่ได้ถูกกักตัวอยู่ใน state quarantine เป็นเวลา 14 วัน จนออกไปปรากฎตัวในที่สาธารณะ ทั้งใน กทม.และระยอง
โดย นพ.ทวีศิลป์กล่าวคำขออภัย เสียใจ และขอบคุณ 3 ครั้ง
– “ขออภัย” ขออภัยที่ถูกกล่าวหาว่ารัฐการ์ดตกเสียเอง ขออภัยต่อคนใน จ.ระยอง โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ต้องปิดโรงเรียน และขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
– “เสียใจ” ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต่อการที่รัฐถูกหาว่าการ์ดตกเอง
– “ขอบคุณ” ขอบคุณเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ (เจ้าตัวใช้คำว่า ‘มดงาน’) ที่ขอตรวจสอบแม้จะไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งพบทหารอียิปต์ติดโควิด ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการป้องกันโควิดที่ผ่านมา และขอบคุณประชาชนที่ให้โอกาส ศบค.ได้ปรับปรุงการทำงาน
นพ.ทวีศิลป์ยังชี้แจงรายละเอียดการเดินทางของผู้ติดโควิดทั้ง 2 รายดังกล่าวอย่างละเอียด
1.) กรณีทหารอียิปต์ 31 คน (ติดเชื้อ 1 คน) ซึ่งเข้าไทยผ่านทางสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง ออกจากโรงแรมดิวารี จ.ระยอง ไปที่ห้างสรรพสินค้าในวันที่ 10 ก.ค. โดย 20 ราย (รวมผู้ติดเชื้อ) ไปที่ห้างแหลมทอง จ.ระยอง ระหว่างเวลา 11.25-14.56 น. และอีก 4 ราย เหลาแท็กซี่ไปที่ห้างเซ็นทรัลระยอง ระหว่างเวลา 14.30-18.00 น. ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีทหารอียิปต์คนใดไปเที่ยวกลางคืนตามที่มีกระแสข่าวในโซเชียลมีเดีย
จากการสอบสวนโรคและตรวจสอบจาก ‘ไทยชนะ’ พบผู้มีความเสี่ยง นอกจากพนักงานโรงแรมและผู้ที่ทำงานในท่าอากาศยานอู่ตะเภา ยังรวมถึงผู้ที่ไปห้างแหลมทอง 394 คน และผู้ที่ไปห้างเซ็นทรัลระยองอีก 1,488 คน โดยมีการติดต่อไปยังบุคคลกลุ่มนี้แล้ว อยากให้เข้ามารายงานตัวเพื่อตรวจสอบคัดกรองโรคต่อไป
2.) กรณีลูกสาวอุปทูตซูดาน ตอนที่อยู่ในซูดานก็อยู่ในบ้านกับครอบครัวไม่ได้ออกไปไหนตั้งแต่เดือน มี.ค. กระทั่งบินมาไทยในวันที่ 10 ก.ค. ก็เข้าขั้นตอนการตรวจสอบคัดกรองโรคที่สนามบินสุวรรณภูมิ ราวตีห้า จากนั้นก็ไปยังที่พัก คอนโดมีเนียม One X Sukhumvit 26 โดยไม่ได้ออกไปไหนเลย เมื่อได้รับการยืนยันว่าติดโควิดก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนครอบครัวถูกนำไปกักตัวที่บ้านพักในสถานทูตซูดาน
ส่วนกระแสข่าวว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวเคยไปยังสถานทีรถไฟฟ้า BTS นานาหรืออโศก หรือห้างเทอร์มินัล 21 ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
โฆษก ศบค. ยังระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงข้อบกพร่อง ซึ่งบางเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่รู้มาก่อน เช่น ไม่รู้ว่าจะมีเครื่องบินไปลงที่สนามบินอู่ตะเภา แทนที่จะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ หรือการที่ให้สถานทูตไปติดต่อโรงแรมที่พักโดยตรง ที่ประชุม ศบค. จึงมีมติ 3 เรื่องเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
– กระทรวงการต่างประเทศจะขอทวนเจ้าหน้าที่ทูตที่เข้าไทยในช่วงนี้ ให้ไปกักตัวใน state quarantine หรือ ASQ เป็นเวลา 14 วัน แทนการให้พำนักในสถานทูตหรือจัดหารที่พำนักกันเอง
– จะยกเลิกเที่ยวบินที่เคยอนุมัติหรืออยู่ระหว่างขออนุมัติจากอียิปต์ ระหว่างวันที่ 17-20 ก.ค. และ 25-29 ก.ค. ไปก่อน
– ให้ชะลอการเข้ามาในไทยของชาวต่างชาติที่ได้รับผ่อนผัน 3 กลุ่ม ตามคำสั่ง ศบค. ฉบับที่ 7/2563 ข้อที่ 2, 3 และ 11 คือ ผู้ที่ได้รับเหตุยกเว้น, บุคคลในคณะทูต และนักธุรกิจที่เข้ามาระยะสั้น
“ผมเองก็เสียใจกับคำพูดที่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง เราก็คุยกันว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงมากที่สุด มีเรื่องที่จะต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกๆ เรื่อง แล้วจะรับมาเป็นข้อปฏิบัติ จะทำให้ดีที่สุด ในข้อต่อเล็กๆ จุดหละหลวมทุกจุด” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
[ เนื้อหาทั้งหมดเป็นการสรุปคำแถลงของ นพ.ทวีศิลป์ในวันนี้ 40 นาที ใครอยากฟังเนื้อหาการแถลงฉบับเต็ม เข้าไปดูได้ที่: https://www.facebook.com/LiveNBT2HD/videos/603771720521776/ ]
สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดในไทยวันนี้ (14 ก.ค.2563) มีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 7 ราย เป็นคนไทยที่กลับจากอียิปต์ 6 ราย และสหรัฐอเมริกา 1 ราย ทั้งหมดอยู่ใน state quarantine (สะสม 3,227 ราย) ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 78 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม (สะสม 58 ราย)
#Brief #TheMATTER
