Hassan al-Kontar ชายชาวซีเรียวัย 37 ปี ได้ปลายทางใหม่ของชีวิตแล้ว หลังติดอยู่ในสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียนานถึง 7 เดือน และมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินบริจาคจากพนักงานในสนามบิน โดยจุดหมายต่อไปของเขาก็คือแคนาดา
คอนทาร์ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรด้านศาสนาและด้านสิทธิมนุษยชน ได้แก่ British Columbia Muslim Association กับ Canada Caring Society และผู้สนับสนุนทางการเงินหลายๆ ฝ่าย ให้เดินทางไปแคนาดาในฐานะ ‘ผู้ลี้ภัย’ หลังจากเรื่องราวในชีวิตของเขากลายเป็นข่าวดัง
ตอนที่บ้านเกิดของเขา-ซีเรีย เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในปี 2011 คอนทาร์ทำงานอยู่ในบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งในยูเออี และหลังพาสปอร์ตหมดอายุ เขาตัดสินใจไม่ไปต่ออายุ เพราะกลัวจะถูกพาตัวไปทำงานในกองทัพซีเรีย จึงตัดสินใจอยู่แบบผิดกฎหมายในยูเออีต่อไป กระทั่งถูกจับในปี 2016
หลังจากนั้นชีวิตของคอนทาร์ก็ระหกระเหินไปทั่วโลก เขาได้พาสปอร์ตเล่มใหม่ในปี 2017 และถูกเนรเทศไปยังมาเลเซีย-ประเทศไม่กี่แห่งที่ให้ฟรีวีซ่ากับชาวซีเรีย หลังจากนั้นเข้าพยายามบินไปที่ตุรกีกับกัมพูชาแต่ไม่สำเร็จ และยื่นคำขอลี้ภัยในเอกวาดอร์รวมถึงกัมพูชา ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน
กระทั่งหลายๆ ฝ่ายยื่นมือมาช่วยเหลือ และได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในแคนาดา ในที่สุด
หนึ่งในผู้ช่วยเหลือคอนทาร์บอกว่า “สถานการณ์ของเขาเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับความท้าทายของผู้ลี้ภัยทั่วโลก..โดยเฉพาะการหาที่ๆ ปลอดภัยให้กับคนกลุ่มนี้อาศัยอยู่..และมีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะโชคดีเหมือนอย่างชายชาวซีเรียคนนี้”
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-46325570
https://twitter.com/kontar81 (เข้าไปดูชีวิตประจำวันในสนามบินมาเลเซียของชายซีเรียคนนี้ได้ที่นี่)
#Brief #theMATTER
