วันนี้ (20 มิถุนายน 2568) สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียถึงภาพขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย พร้อมกับสามี ไปเยือนกัมพูชาในเดือนเมษายน 2568
ฮุน เซน ระบุถึงกรณีที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต้อนรับหลวงตาสุจ พระวัดป่าโคกคฤห์ จ.บุรีรัมย์ พระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียง ให้ไปอยู่ที่กัมพูชาด้วย หลังไม่กี่วันที่ผ่านมา มีประเด็นหลวงตาสุจไลฟ์พูดภาษากัมพูชา เนื้อความด่าคนสุรินทร์และยุทหารให้ยิงคนสุรินทร์ จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
ซึ่งฮุน เซน ยังอ้างอิงว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขากับรัฐบาลกัมพูชา ให้การต้อนรับประชาชนไทย เพราะในอดีตยังเคยให้การต้อนรับ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยมาแล้ว โดยจัดให้มีห้องนอนส่วนตัวในบ้านของตนเอง ที่ปัจจุบันยังตั้งชื่อห้องตามคนทั้งคู่
โดยตนยังระบุว่า ความสัมพันธ์ของตนกับตระกูลชินวัตรนั้นมีความแน่นแฟ้น ขณะที่แพทองธารไปเยือนกัมพูชาครั้งล่าสุด ยังได้รับประทานอาหารร่วมกัน เป็นเหมือนการ ‘รวมญาติ’ แต่ความสัมพันธ์กลับเริ่มแตกร้าว หลังมี ‘เจ้าหน้าที่กัมพูชา’ ปล่อยคลิปเสียงออกมา จนกลายเป็นประเด็นร้อนล่าสุดในการเมืองไทย
เนื้อหาฉบับเต็มที่ฮุน เซน โพสต์ มีดังนี้
“กระผมขอแสดงความยินดีอย่างสุดซึ้งต่อหลวงตาสุจ ที่ได้รับการต้อนรับจาก นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ให้มาจำพรรษาที่ประเทศกัมพูชา
กระผมขอขอบคุณ ท่านนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต และรัฐบาลกัมพูชา ที่ให้ความอนุเคราะห์ต่อหลวงตาสุจ กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานสัญชาติกัมพูชาแก่หลวงตาสุจ เพื่อที่ท่านจะได้ปฏิบัติศาสนกิจในฐานะพลเมืองกัมพูชา
กระผมเชื่อมั่นว่ากรณีของหลวงตาสุจ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย และจะไม่ถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย โดยกัมพูชาจะไม่ยอมให้หลวงตาสุจสร้างความเคลื่อนไหวใดๆ ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้น กรณีของหลวงตาสุจก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งกระผมและรัฐบาลกัมพูชา เคยได้ให้การสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นบิดาและอาของนายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบันมาแล้ว
ระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทยในเดือนเมษายน 2568 นอกเหนือจากวาระการประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว เรายังมีการรวมญาติ โดยนายกรัฐมนตรีไทย คุณอุ๊งอิ๊ง และสามี ได้มารับประทานอาหารค่ำที่บ้านของกระผม
ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีไทยได้ขอเยี่ยมชมห้องที่บิดาและอาของเธอเคยพำนักอยู่ บ้านของกระผมได้จัดเตรียมห้องไว้ให้ท่านทั้งสองห้อง หนึ่งห้องชื่อ “ห้องทักษิณ” และอีกห้องชื่อ “ห้องยิ่งลักษณ์” สามีของนายกรัฐมนตรีไทยได้ถ่ายภาพและวิดีโอของทั้งสองห้องไว้
สายสัมพันธ์อันยาวนานกว่า 30 ปีระหว่างสองครอบครัวของเรา ต้องแตกร้าวลงจากการรั่วไหลของคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ถูกปล่อยโดยเจ้าหน้าที่กัมพูชา ผู้ที่รู้สึกโกรธเคืองต่อการดูถูกเหยียดหยามตัวกระผมและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่กล่าวหาว่าเราไม่มีความเป็นมืออาชีพ”
อ้างอิงจาก