“อย่าเอาเรื่องจริงมาล้อเล่นดิ”
“ใน 55555555 มีน้ำตาซ่อนอยู่”
เมื่อชีวิตมันยากนัก ก็เอามันมาล้อเล่นซะให้สิ้นซาก ให้มันตลก ให้มันจบไป อย่างน้อยก็ดีกว่ามัวแต่จมอยู่กับความเศร้าแหละ
The MATTER ได้มีโอกาสพูดคุยกับมือวางอันดับต้นๆ ด้านตลกร้าย เสียดสี ประชดประชัน อย่าง ‘นิค ขายหัวเราะ’ เจ้าของลายเส้นที่เราทุกคนคุ้นเคย ถึงการหยิบเอาเรื่องจริงมาล้อเล่น สร้างเสียงหัวเราะด้วยการเสียดสี และพูดถึงหนังสือรวมแก๊กเล่มแรกอย่าง Dark Humour
เทคนิคการเอาเรื่องจริงมาล้อเล่น
ตลกร้ายส่วนใหญ่เกิดจากเรื่องในชีวิตจริงทั้งนั้น ดังนั้นวัตถุดิบในการนำมาคิดเนื้อเรื่องก็ล้วนมาจากชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์จริง ข่าวสารบ้านเมือง หนังสือ หรือภาพยนตร์สักเรื่อง แล้วพี่นิคมีเทคนิคการเอาเรื่องจริงมาล้อเล่นอย่างไร?
“วัตถุดิบเริ่มที่ตัวเราก่อน เราเป็นคนที่ชอบฟังเรื่องคนอื่น สรุปง่ายๆ คือเป็นคนศึกษาจากหนังสือ จากการดูข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของประเทศ สะสมเป็นตัวเรา แล้วค่อยกลั่นออกมาเวลาคิดอีกทีนึง ถ้าเป็นแก๊กที่มันเกินจริง ก็จะมาจากหนังที่เขาผูกเรื่องมาแล้ว เดินเรื่องแบบฉับไวเกินจริง แบบนั้นจะเอามาคิดต่อให้มันเป็นเรื่องแนวเกินจริง ตลกร้ายแบบเกินจริงได้”
เมื่อตลกร้ายที่ต้องเอาเรื่องเครียดที่เกิดขึ้นมาทำให้คนอ่านรู้สึกขำขันและหัวเราะให้กับมันได้ ซึ่งดูยากกว่าการเขียนตลกทั่วไปด้วยซ้ำ แล้วตลกทั่วไป กับตลกร้ายนั้นต่างกันอย่างไร มีความยากง่ายที่ไม่เหมือนกันหรือเปล่า
“ตอนคิดแก๊กไม่แตกต่างกัน เรามาแยกทีหลังว่าอันนี้เป็นตลกร้าย อันนี้เป็นตลกใสซื่อบริสุทธิ์ คือตลกให้คิด จะบอกยังไงล่ะ เวลาคิดมันไม่สามารถที่จะแยกได้ว่าคิดอันนี้อยู่นะ คิดอันนั้นอยู่นะ มันแล้วแต่คิดออกมา แล้วจับแยกทีหลัง ซึ่งก็ไม่ยากนะ ไม่ยากทั้งสองอันเลย คือเวลาคิด แก๊กจะต้องมาก่อน คิดยังไง ตบท้ายยังไงก่อน แล้วค่อยเอาเรื่องมาผูกใส่เข้าไป”
แต่ในฐานะคนที่ทำงานกับเหตุการณ์ปัจจุบัน และต้องเอามาคิดซ้ำให้เกิดเป็นตลกร้ายอยู่ตลอดเวลา เรื่องราวเหล่านั้นจะทำให้หม่นใจบ้างหรือเปล่า และหลังจากได้วัตถุดิบจากชีวิตจริงมาแล้ว เอามาทำเป็นการ์ตูนตลกร้ายยังไง
“ไม่หม่นใจ แต่ความหม่นใจนี่เรามีมาก่อนหน้านั้นแล้ว เราฟังข่าวเราก็หม่นใจแล้ว แล้วเราสามารถเอามาเขียนในมุมตลกได้มั้ย ที่เป็นตลกร้ายนะ เราก็ต้องหาคนที่มีสถานการณ์คล้ายๆ กัน แล้วจะตบออกมายังไง อันนี้ไม่หม่นละ เป็นที่วิธีคิด จะหม่นใจกับเรื่องที่มันเกิดขึ้นตอนแรกมากกว่า”
“คือใจเราแน่วแน่อยู่แล้ว สามารถปล่อยวาง คิดอะไรก็ได้ ปล่อยวางอะไรก็ได้ เอาอะไรมาฉุกคิดก็ได้มากกว่า ความเครียดความรู้สึกของเราระบายออกกับงานเรียบร้อยแล้ว ตัวเราไม่มีผลกับความเครียดที่จะมาสะสมกับเราได้อีกแล้ว”
“ดูว่ามันจะตบยังไงเท่านั้นเอง พอตบเสร็จมันกลายเป็นขำได้ กลายเป็นตลกได้ กลายเป็นให้ความคิดได้ หรือว่าชวนสงสัยได้ แค่นั้นก็จบ หยุดแค่นั้น เขียนไอเดียเอาไว้ก่อน เมื่อได้หลายไอเดียเยอะขึ้นก็ค่อยเอามาเขียนเป็นภาพทีหลัง สำหรับหนึ่งชิ้น”
ตลกร้ายที่ตลกกว่าชีวิตจริง
ว่ากันว่าคนที่อินกับตลกร้ายคือคนฉลาด เพราะตลกร้ายอาศัยความเข้าใจในมิติที่ลึกกว่าตลกทั่วไป คนที่เข้าใจจะต้องรู้ถึงเหตุการณ์นั้นที่ถูกจับเอามาทำเป็นแก๊ก และมีอารมณ์ขันมากพอจะหัวเราะไปกับมัน
“ตลกร้ายนี่บางทีมันเป็นตลกที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง แต่บางครั้งมันเกินชีวิตจริง มันเอาจากชีวิตจริงไปต่อให้ยาวอีกหน่อย ให้กลายเป็นเรื่องที่ว่า ชีวิตจริงมันเป็นแบบนี้ก็ได้ หักซ้าย หักขวาอะไรก็ได้ ซึ่งในชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันอาจจะมาหยุดแค่เรื่องราวชีวิตจริง อันนี้แหละมันเลยไปตอบสนองในคนที่เขาไปไม่ถึง ในจุดชีวิตจริงที่ไปไม่ถึง ตอบสนองว่ามันไปแบบนี้แล้วเขารู้สึกยังไง เออมันเป็นไปได้ พอตามไปได้ เขาก็รับได้และรู้สึกว่ามันตลก”
“อย่างสมมติคนเราไปเจอเรื่องร้ายๆ อะไรแบบนี้ มันแสดงออกได้หลายทาง หัวเราะทั้งน้ำตา เศร้า เครียดในสิ่งที่คาดไม่ถึง หรือคาดเอาไว้แล้วไปอีกอย่าง อย่างนี้มันเกิดผลกับความรู้สึกของคน ตลกร้ายก็คือตลกที่ส่งผลกระทบกับความรู้สึกของคน ตลกนี้มันทั้งสามารถเป็นจริงได้ เป็นจริงไม่ได้ ยังไงก็แล้วแต่ แต่มันแฝงให้คิด ให้เขาคิดตามเท่านั้นเอง”
Dark Humour หนังสือรวมแก๊กที่จะบอกกับทุกคนว่า “นี่แหละชีวิต”
Dark Humour เป็นหนังสือรวมแก๊กเล่มแรกของนิค หนังสือปกแข็งเล่มสีดำที่รวบรวมแก๊กตลกร้ายเอาไว้ หนังสือเล่มนี้มีความร่วมสมัยด้วยความที่หน้าตาไม่เหมือนขายหัวเราะปกติ แต่เมื่อเปิดอ่านดูก็จะพบทั้งตัวตน และตัวอักษรลายมือของนิคเอง ลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ที่คนที่เติบโตมากับขายหัวเราะจะต้องจำได้ รวมไปถึงเทคนิคการลงสีแบบโบราณด้วยสีผสมอาหารที่นิคเป็นคนบุกเบิกในยุคนั้น ผสมผสานกับเทคนิคการลงสีแบบใหม่ แม้ว่าปัจจุบันวงการนักวาดส่วนใหญ่จะลงสีแบบดิจิทัลกันหมดแล้ว แต่นิคยังคงคราฟต์ทุกอย่างด้วยมือเหมือนเดิม
“การลงสีแบบโบราณคือเอาสีใกล้ตัว สีผสมอาหารที่ให้ความสด ความสดของสีผสมอาหารจะเหมาะกับการพิมพ์มาก สีแบบอื่นจะให้ความสดแบบนี้ไม่ได้ ส่วยการลงสีแบบสมัยใหม่ก็คือใช้มาร์กเกอร์ สีไม้ สะท้อนแสงเข้าช่วย ผสมกัน ในจุดที่เราอยากใช้สีแบบไหน”
คอนเซ็ปต์ของหนังสือเล่มนี้คือตลกร้าย เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป มิติของอารมณ์ขันก็หลากหลายมากขึ้น ผู้คนหันมาสนใจตลกร้ายที่ลึกกว่าตลกทั่วไป ซึ่งมือวางอันดับต้นๆ ของบ้านเราในเรื่องตลกร้ายก็คือนิค ขายหัวเราะที่วาดแก๊กตลกเสียดสี ประชดประชันอยู่เรื่อยมา Dark Humour ก็อัดแน่นไปด้วยแก๊กที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหน ไม่ว่าใครก็จะสนุกไปกับตลกร้ายในแบบฉบับของนิคได้อย่างแน่นอน
“ผมเขียนเองมาเห็นยังภูมิใจ ยังรู้สึกตระการตามาก”
DARK HUMOUR ขำ-ขื่น โดย นิค ขายหัวเราะ สั่งซื้อออนไลน์แล้ววันนี้ที่
Minimore Store: store.minimore.com หรือ
Shopee: bit.ly
*คำเตือน: หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี และผู้มีภาวะซึมเศร้า เพราะมีเนื้อหาประกอบไปด้วยความรุนแรง การตายในรูปแบบต่างๆ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน