ผมเคยบอกเล่าผ่านคอลัมน์นี้อยู่หลายครั้งว่า genre หนังที่โดดเด่นมากของอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีใต้ก็คือหนังทริลเลอร์ ทุกๆ ปีจะมีหนังแนวนี้ออกมาเสมอ แถมเป็นหนังทำเงินด้วย (ในขณะที่หนังทริลเลอร์บ้านเราเจ๊งตลอด) มีความหลากหลายทั้งหนังฆาตกรต่อเนื่องอย่าง I Saw the Devil (2010) หนังสัตว์ประหลาดอย่าง The Host (2006) หรือกระทั่งหนังซอมบี้-ไวรัส อย่าง Train to Busan ที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังในตอนนี้
และความผีบ้าป่าช้าแตกก็เกิดขึ้นเมื่อผู้กำกับ Na Hong-jin จับทุกแนวที่ว่ามายำรวมใน The Wailing หนังเรื่องใหม่ล่าสุดของเขา
เรื่องราวของ The Wailing เกิดขึ้นในหมู่บ้านไกลปืนเที่ยงที่ดูสงบสุขราบเรียบ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีเหตุฆาตกรรมนองเลือดไม่หยุดหย่อน ซ้ำร้ายคนในหมู่บ้านยังพากันเป็นโรคประหลาดมีผื่นแดงขึ้นตามตัว ตัวเอกของเรื่องเป็นนายตำรวจที่ไม่รู้จะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร และดูเหมือนว่าครอบครัวของเขาจะเป็นเหยื่อรายต่อไป
ตามธรรมเนียมแล้ว พระเอกในหนังทริลเลอร์เกาหลีนั้นต้องเท่ มีเสน่ห์ ชวนติดตาม เช่น ดาราหนุ่มใหญ่ Lee Byung-hun ในเรื่อง I Saw the Devil หรือถ้าไม่หล่อก็ต้องมีลูกบ้าดุดัน อย่าง Choi Min-sik ใน Old Boy (2003) ทว่าตัวละครนำใน The Wailing ไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้นเลย เขาเป็นตำรวจอ้วนๆ เฉื่อยๆ ที่หวาดกลัวต่อทุกสิ่ง และเมื่อแก้ไขคดีไม่ได้ เขาก็ต้องไปจ้างหมอผีมาช่วย มันแสดงถึงความสิ้นไร้ไม้ตอกทั้งความเป็นชาย เมื่อผู้เป็นพ่อไม่สามารถปกป้องครอบครัวได้ รวมไปถึงความสิ้นท่าของตัวแทนอำนาจรัฐ
The Wailing มีความยาวถึง 156 นาที แต่มันกลับไม่น่าเบื่อแม้แต่นิดเดียว Na Hong-jin เก่งฉกาจในการประเคนความฉิบหายใส่หนังตัวเองแทบทุกห้านาที อย่างไรก็ดี ฉากไคลแมกซ์ของหนังกลับสงบนิ่งอย่างเลือดเย็นชวนขนหัวลุก และบทสรุปของหนังอาจจะทำให้ผู้ชมบางส่วนหงุดหงิดใจบ้าง เพราะมันเต็มไปด้วยความคลุมเครือและปริศนาอันไม่คลี่คลาย
หากเมื่อพิจารณาดูแล้ว ความค้างคาของ The Wailing ก็ช่วยผลักให้หนังไปไกลสุดขอบ เมื่อทั้งแพทย์ ผี และตำรวจไม่อาจให้ความกระจ่างกับผู้ชมได้ มันอาจเป็นบทสรุปว่ามนุษย์พ่ายแพ้อย่างหมดรูปทั้งในทางวิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ อำนาจรัฐ และตรรกะใดๆ ทั้งปวง โดยที่เรายังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากำลังเผชิญกับอะไรอยู่
โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
จากนิตยสาร giraffe ฉบับที่ 44