“กทม. มันไม่ได้มี space สำหรับการออกมาใช้ชีวิตมากเพียงพอ คนที่อยู่ในเมืองใหญ่ พอใช้ชีวิตแล้ว หลายๆ คน เราต้องมี public space สำหรับเขา ให้เขา relax บ้างหรือเปล่า อย่างน้อยก็รู้สึกว่าในวันที่ห่วยๆ ในวันที่แย่ในชีวิตเนี่ย เราก็ยังมีสวนสาธารณะ เราก็ยังมี facility อะไรต่างๆ ให้ใช้ชีวิต
“อันนี้ออกมาจากออฟฟิศก็คือฟุตบาทพัง สวนไปถึงก็ไม่พอ เดินทางยาก เรื่องฟุตบาทพี่ว่าสะท้อนรากเลยแหละ มันไม่ได้ถูกดีไซน์มาตั้งแต่ต้นให้คนเดิน มันก็อาจจะทำให้ reflect เวลาหลายๆ คนได้ไปเที่ยว ทำไมบ้านเราไม่เป็นอย่างงี้บ้างวะ เราคงมีความสุขขึ้น ได้เห็น art museum ดีๆ ที่ไม่ถูก commercialize ไปหมดแล้ว ไม่กลายเป็นห้างไปหมด”
คือมุมมองของ ‘ตุลย์-ภากร ธนศรีวนิชชัย’ นักแสดงและนายแบบ ต่อปัญหาของ กทม.
อีกปัญหาในมุมของเขาคือการเดินทาง ในฐานะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ย่านบางนา กว่าจะเดินทางเข้ามาในใจกลาง กทม. ต้องเหนื่อยมากๆ
“อย่างเรื่อง suburb ผมเป็นคนบางนา คนที่อยู่ตามนี้ บางนา รามอินทรา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์ บางใหญ่ กว่าเขาจะเข้ามาทำงานในเมือง โอ้โฮ ผ่านรถติด ผ่านการเปลี่ยนรถ จนมันเหนื่อยกว่าที่เขาจะสามารถทนได้เป็นสิบๆ ปีแล้ว ทำไมปัญหานี้มันยังไม่ถูกแก้”
ตุลย์ซึ่งจบจากคณะสถาปัตย์ จุฬาฯ ระบุว่า เคยมีไอเดียว่า สมมุติคนที่อยู่ชานเมืองต้องเข้ามาทำงานใจกลาง กทม. แทนที่จะต้องเปลี่ยนระบบขนส่งสาธารณะหลายๆ อย่าง เช่น จากวินมอเตอร์ไซค์ ไปรถเมล์ ไปรถไฟฟ้า กว่าจะถึงก็หลายชั่วโมง ทำไมไม่มี hyper station นั่งไม่กี่สถานีก็ถึงสยามสแควร์เลย มันยากหรืออย่างไร เหตุใดต่างประเทศถึงมี express train ได้
เขายังยกอีกหลายๆ ปัญหามาเล่าให้เราฟัง ทั้งเรื่องผังเมือง การศึกษา คุณภาพชีวิต ขยะ ฯลฯ
“คือ กทม. ก็เป็นเมืองใหญ่ แล้วผมก็เชื่อว่าทุกเมืองใหญ่ก็มีปัญหาของมัน แต่ กทม.ก็มีปัญหาเยอะไป แล้วก็อาจจะไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่ critical มากเพียงพอ” ตุลย์สรุป
- ติดตามซีรีส์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของ The MATTER ได้ที่: https://thematter.co/category/bkk65
#BKK65 #Quote #เลือกตั้งผู้ว่ากทม #พื้นที่สาธารณะ #ตุลย์ภากร #TheMATTER