เคยลองจินตนาการดูไหมว่าเราในอีกหลายสิบปีข้างหน้าจะกำลังทำอะไรอยู่?
เคยลองตั้งคำถามไหมว่า ‘อายุมากขึ้น ต้องหยุดทำสิ่งที่รักหรือเปล่า?’ …
คำถามนี้จุดประกายแนวคิดที่ชื่อว่า “Active Aging” พฤฒพลัง หรือการสูงวัยอย่างกระฉับกระเฉง คือการที่ผู้สูงวัยยังคงมีสุขภาพที่ดี มีส่วนร่วมในสังคม และยังคงรับรู้คุณค่าของตนเองว่ามีความหมายทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ใช่เพียงแค่มีชีวิตอยู่ แต่คือการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้จิตใจจะยังไม่โรยรา แต่ร่างกายก็ยังคงมีร่องรอยของกาลเวลา เพราะหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการมี Active Aging คือการที่สภาพร่างกายเริ่มถดถอยเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงอายุ 40 ปี ที่ร่างกายจะเริ่มเกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Sarcopenia) โดยมวลกล้ามเนื้ออาจลดลงราว 1-2% ต่อปี และหากไม่ได้รับการดูแลที่ดี อาจนำไปสู่ปัญหาการเคลื่อนไหวที่ลดลงได้ (Mobility) ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก มีความเสี่ยงต่อการหกล้ม จนอาจสูญเสียความเป็นอิสระในการใช้ชีวิตประจำวันได้เลยทีเดียว
อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกกำลังก้าวสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุมากเข้าไปทุกที งานวิจัยทางโภชณาการในช่วงหลังจึงมักให้ความสำคัญกับการบริโภคกรดอะมิโนจำเป็น ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ มีส่วนช่วยฟื้นฟู และชะลอการเสื่อมของกล้ามเนื้อในผู้สูงวัย อย่าง Leucine จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลิตภัณฑ์ AminoMOF ซึ่งมี Leucine สูงถึง 1,200 มก. ต่อซอง ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตจากญี่ปุ่น ลิขสิทธิ์เดียวเฉพาะ AminoMOF เท่านั้น พร้อมคอลลาเจน และกรดอะมิโนจำเป็นอีก 9 ชนิด 3,000 mg ที่ย่อยง่าย และดูดซึมเต็มประสิทธิภาพ จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่สนับสนุนความพร้อมของผู้สูงวัย เน้นช่วยเรื่อง การเคลื่อนไหวร่างกาย (mobility problems) ทำให้กระฉับกระเฉงขึ้นนั่นเอง
แน่นอนว่าการมี Active Aging ในผู้สูงอายุ ไม่ได้มีปัจจัยสำคัญเพียงแค่การสร้างทัศนคติที่ดีต่อตนเอง และการเสริมสร้างร่างกายผู้สูงอายุเองเท่านั้น แต่ยังต้องมองภาพกว้างครอบคลุมไปยังสังคมรอบตัวของผู้สูงอายุเองด้วย ที่ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติไม่มองผู้สูงวัยว่าเป็นเพียงกลุ่มคนที่ต้องการการดูแล แต่เป็นกลุ่มคนคุณภาพที่พร้อมสร้างพลังและส่งต่อคุณค่ากลับคืนสู่สังคมได้ เพื่อส่งต่อพลังใจสนับสนุนให้คนวัยเก๋าเหล่านี้ยังคงแฮปปี้และมีบทบาทในสังคม
AminoMOF ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้สูงวัย นอกจากจะเล็งเห็นความสำคัญในการเสริมสร้างร่างกายแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการเสริมพลังทางใจและให้พื้นที่กับผู้สูงวัยในสังคมเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านแคมเปญ The Oldlunteer ซึ่งเกิดขึ้นใน เทศกาลวิ่ง Saturday Night Run ที่ Betong Festival 2025 โดยชวนผู้สูงวัยในเบตงกว่า 100 คน มาร่วมเป็นอาสาสมัครวัยเก๋า รับหน้าที่ตั้งแต่การลงทะเบียน แจกอุปกรณ์ แจกน้ำ ยันมอบเหรีญรางวัลหลังแข่งจบ เป็นกองเชียร์แนวหน้าให้กำลังใจข้างสนาม เป็นนักแสดงโชว์การแสดงท้องถิ่น ไปจนถึงเป็นนักแข่งวัยเก๋าเข้าร่วมวิ่งจริงในรายการ Saturday Night Run ระยะ 4 กิโลเมตร งานนี้นอกจากจะสร้างพื้นที่ให้เหล่าผู้สูงวัยได้มีบทบาทสนุกๆ ในสังคมแล้ว หลายคนยังได้เรียนรู้สกิลใหม่ๆ อย่างการใช้ระบบลงทะเบียนผ่านคอมพิวเตอร์ เป็นนักแสดงท่านหนึ่งที่มีคิวซ้อมการแสดงเป็นเดือนๆ หรือทดลองเป็นชาวสวนรวมตัวกันปลูกดอกปอเทืองตลอดเส้นทางวิ่ง เพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงามให้กับเมืองเบตง และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับการส่งต่อแรงเชียร์ผ่านกิจกรรมสุดน่ารักอย่างการร่วมพลังกันเขียนป้ายเชียร์ตลอดเส้นทางเพื่อส่งต่อพลังใจนักวิ่ง อีกทั้งยังมีกิจกรรมการเขียนโปสการ์ดให้กำลังใจด้วยลายมือกว่า 2,000 ใบ เพื่อเป็นที่ระลึกให้นักวิ่งทุกคนหลังเข้าเส้นชัยอีกด้วย
แคมเปญนี้เป็นภาพสะท้อนได้อย่างดีว่าแนวคิด Active Aging เป็นแนวคิดสำคัญที่ควรเกิดขึ้นในสังคมสูงวัยของไทย เพราะการมีสุขภาพที่ดี ไม่ได้จบแค่การมีร่างกายที่แข็งแรง แต่คือการมีคุณค่าในสายตาของตัวเองและสังคม การที่ผู้สูงวัยได้มีกิจกรรมทำร่วมกับสังคมเช่นเดียวกับแคมเปญ The Oldlunteer จาก AminoMOF ในครั้งนี้ เสมือนทำให้เราได้เห็นยูโทเปียของสังคมสูงวัยในอุดมคติ คือการให้พื้นที่และให้การสนับสนุนเพื่อสร้างระบบที่เชื่อมั่นในศักยภาพของผู้สูงวัยได้จริง เพื่อที่ในอนาคตเราจะไม่ต้องแบกรับสังคมสูงวัย แต่เป็นการเดินร่วมกันกับสังคมที่เต็มไปด้วยพลังจากทุกวัย