ประวัติศาสตร์แฝงตัวอยู่ทุกที่ แม้กระทั่งบนนาฬิกาข้อมือของคุณ
เพราะนาฬิกาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกมานาน ไม่ว่าจะเป็นการบุกสำรวจดินแดนใหม่ ช่วงเวลาแห่งสงคราม หรือกระทั่งการดำดิ่งสู่ใต้มหาสมุทร โดยเฉพาะนาฬิกาดำน้ำที่มีประวัติศาสตร์โชกโชนไม่แพ้เรือนเวลาประเภทอื่นเลย
นาฬิกาดำน้ำ Fifty Fathoms No Rad (ย่อมาจาก No Radiation) ของ Blancpain (อ่านว่า บลองแปง) เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เลื่องชื่อด้านประวัติศาสตร์ เพราะเป็นเรือนเวลาที่มีเรื่องราวสำคัญมากมาย ทั้งการปรับเปลี่ยนส่วนผสมสารเรืองแสง การพัฒนาเป็นอุปกรณ์คู่กายของหน่วยปฏิบัติการประจำกองทัพเรือเยอรมัน และการเป็นนาฬิกา Limited Edition ที่น่าสะสม
วันนี้ The MATTER จึงจะพาย้อนเวลากลับไปสำรวจประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของนาฬิกาดำน้ำปลอดกัมมันตรังสีเรือนนี้กัน
The Beginning of the Invention: กำเนิดนาฬิกาดำน้ำ
Blancpain ก่อตั้งครั้งแรกในปี 1735 ณ หมู่บ้านเล็กๆ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยผู้ให้กำเนิดในชื่อเดียวกัน ก่อนจะต่อยอดพัฒนากลไกนาฬิกาเป็นของตัวเองจนกลายเป็นแบรนด์นาฬิกาไฮเอนด์สัญชาติสวิสที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ช่วงปี 1952 Jean-Jacques Fiechter ผู้บริหารที่หลงใหลการดำน้ำในยุคนั้น กำลังคิดค้นนาฬิการูปแบบใหม่เพื่อใช้ในการดำน้ำโดยเฉพาะ เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยดำน้ำลึก 50 เมตรในประเทศฝรั่งเศสแล้วออกซิเจนหมดกลางคัน ทำให้เขากลับขึ้นสู่ผิวน้ำได้อย่างยากลำบาก
ประสบการณ์เฉียดตายทำให้ Fiechter ตระหนักได้ว่า นักดำน้ำไม่เพียงต้องการอุปกรณ์บอกเวลาเท่านั้น แต่ยังต้องการอุปกรณ์จับเวลาด้วย เพื่อใช้คำนวณปริมาณออกซิเจนแล้วกลับขึ้นมาสู่ผิวน้ำได้อย่างปลอดภัย
กระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับเรือเอก Robert Bob Maloubier กับเรือโท Claude Riffuad สองทหารนักประดาน้ำชาวฝรั่งเศสที่มีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขาจึงร่วมมือร่วมใจพัฒนาเรือนเวลารุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดที่ต้องเป็นสีดำ มีตัวเลขและเครื่องหมายต่างๆ ขนาดใหญ่ สามารถส่องสว่างชัดเจนในที่ที่มีแสงน้อย และมีฟังก์ชันสำคัญอย่าง Bezel หรือขอบตัวเรือนระบุเวลาที่สามารถหมุนได้ทิศทางเดียว เพื่อใช้จับเวลาและอ่านค่าปริมาณการใช้ออกซิเจน
นอกจากนี้ Fiechter ยังคิดค้นและจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับนวัตกรรมกันน้ำจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเม็ดมะยมที่มีซีลกันน้ำสองชั้น การบรรจุวงแหวนยางกันน้ำระหว่างตัวเรือน และฝาหลังแบบขันเกลียว ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากความคิดเขาทั้งสิ้น เรียกได้ว่า Blancpain เป็นผู้วางรากฐานการออกแบบนาฬิกาดำน้ำยุคใหม่อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
The Legendary Diving Watch: สู่นาฬิกาประจำกองทัพ
ปี 1953 ในที่สุด Blancpain ก็พลิกโฉมประวัติศาสตร์นาฬิกาดำน้ำได้สำเร็จกับรุ่น Fifty Fathoms เรือนเวลาดำน้ำรูปแบบโมเดิร์น (Modern Diving Watch) เรือนแรกของโลกที่เหมาะสำหรับปฏิบัติภารกิจใต้น้ำโดยเฉพาะ เพราะมีคุณสมบัติกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ดูเวลาชัดเจนในทุกสภาวะ ทั้งยังงดงามและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ สามารถดำน้ำได้ลึกถึง 50 Fathoms หรือราวๆ 91 เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นความลึกที่สุดที่มนุษย์สามารถทำได้ในยุคนั้น
Blancpain จึงผลิตนาฬิกาต้นแบบ 20 เรือน ส่งให้หน่วยปฏิบัติการนักประดาน้ำจู่โจมแห่งกองทัพเรือฝรั่งเศสได้ทดสอบ แน่นอนว่า Fifty Fathoms ผ่านการทดสอบได้อย่างสบายๆ จนกลายเป็นมาตรฐาน ISO 6425 ที่กองทัพเรือประเทศต่างๆ ยึดตามกัน ไม่ว่าจะเป็นอิสราเอล สหรัฐอเมริกา สเปน เดนมาร์ก นอร์เวย์ เยอรมัน ฯลฯ
หลังจากนั้น Fifty Fathoms ก็ได้กลายเป็นอุปกรณ์ดำน้ำสำคัญที่ขาดไม่ได้ทันที คนทั่วไปเองก็สามารถหาซื้อหรือเช่าได้ตามร้านอุปกรณ์ดำน้ำเฉพาะทาง Blancpain จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาต่อมา
The Luminous Radium Paint: สารเรืองแสงแรงอันตราย
ย้อนกลับไปในยุคที่โลกเพิ่งรู้จักกับธาตุเรเดียม (Radium) ตอนนั้นยังไม่มีใครทราบถึงภัยร้ายจากกัมมันตรังสีที่ซ่อนอยู่ ทุกคนจึงใช้คุณสมบัติของธาตุเรเดียมในเชิงอุตสาหกรรมทั่วไป โดยเฉพาะการผสมในสารเรืองแสง (Luminous Paint) ที่สามารถส่องสว่างได้ ว่ากันว่าสารดังกล่าวเมื่ออยู่ในที่มืดจะสะท้อนแสงสีเขียว-ขาวอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ คนทั่วไปจึงนิยมใช้ธาตุเรเดียมแต่งแต้มสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องปกติ
หนึ่งในนั้นก็คือการระบายสารเรืองแสงบนหน้าปัดนาฬิกา จนเกิดเหตุการณ์ Radium Girls ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พนักงานหญิงสมัยนั้นใช้พู่กันเล็กๆ ค่อยๆ ระบายลงบนตัวเลขหรือขีดทีละขีด และเมื่อปลายพู่กันเริ่มบานออก พวกเธอก็จะใช้ปากขมวดมันเป็นประจำ
ระยะเวลาผ่านไป ร่างกายหญิงสาวก็ได้รับสารกัมมันตรังสีจำนวนมากนำไปสู่ปลายทางอันน่าเศร้าของชีวิตพวกเธอ
The First No Radiation Sign: ถึงเวลาแบนสารกัมมันตรังสี
เมื่อทุกคนรับรู้ถึงความอันตรายของกัมมันตรังสี ในที่สุดช่วงปี 1960s จึงมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าธาตุเรเดียมเป็นอันตราย Blancpain จึงตัดสินใจยกเลิกใช้สารเรืองแสงที่มีส่วนผสมของธาตุเรเดียมบนหน้าปัดนาฬิกา
เพื่อสร้างความมั่นใจว่า Blancpain ไม่ได้ใช้สารเรืองแสงผสมกัมมันตรังสี การผลิตนาฬิกาในปีนั้นจึงเพิ่มสัญลักษณ์ “No Rad” ที่ย่อมาจาก No Radiation พร้อมรูปใบพัดสีเหลือง-แดงทับด้วยเครื่องหมายกากบาทสีดำตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกาก่อนจะส่งมอบนาฬิกาที่มีเครื่องหมาย “No Rad” ให้กับกองทัพทหารเรือเยอรมันเป็นผู้ใช้กลุ่มแรกของโลก
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Fifty Fathoms No Rad ก็มีประวัติยาวนานมากว่า 70 ปี
A Tribute to Fifty Fathoms No Rad Limited Edition: เรือนเวลาระดับไอคอนแบบลิมิเต็ด อิดิชั่น
หลังสงครามโลกสงบลงบทบาทของนาฬิกาดำน้ำก็เริ่มมาสู่คนทั่วไปมากขึ้น Blancpain เองก็พัฒนานาฬิการุ่นใหม่ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของแบรนด์ แต่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์นยุคปัจจุบัน
ล่าสุดปี 2021 Blancpain ได้รังสรรค์ผลงานนาฬิกาดำน้ำระดับตำนานอย่าง Fifty Fathoms No Rad นาฬิกาดำน้ำคู่กายหน่วยปฏิบัติการนักประดาน้ำจู่โจมประจำกองทัพเรือเยอรมันให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ซึ่งยังคงโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ “No Rad” ที่บ่งบอกว่านาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้ใช้สารเรืองแสงเรเดียมอีกต่อไป แต่เคลือบสารเรืองแสง Super-Luminova แบบ Old Radium ให้สีโทนเบจอมส้ม พร้อมคุณสมบัติกันน้ำลึก 300 เมตรในตัวเรือนที่ถอดแบบมาจากเรือนเวลารุ่นประวัติศาสตร์ของคอลเลคชั่นนี้
อีกหนึ่งความพิเศษของ Fifty Fathoms No Rad รุ่นใหม่นี้ คือจำกัดการผลิตไว้เพียง 500 เรือนเท่านั้น นอกจากจะมีคุณค่าแล้ว ยังเป็นเรือนเวลา Limited Edition ที่น่าสะสมอีกด้วย
มาทำความรู้จัก Fifty Fathoms No Rad ให้มากขึ้นกันได้ที่ https://www.blancpain.com/en/fifty-fathoms-collection/history/no-rad-2021