แม้เราจะอยู่ในยุคที่เริ่มมองเห็นความงามของมนุษย์ในหลากเฉดสีมากขึ้น แต่ความขาวก็ยังถูกโหมกระแสให้อยู่ในความสนใจลึกๆ ของมนุษย์ทุกคนอยู่ตลอดเวลา
วาทกรรมเรื่องความขาวที่ปรากฏบนร่างกายนอกจากจะเป็นบรรทัดฐานความงามในจิตใต้สำนึกแล้ว ยังสื่อถึงความสะอาดหมดจด ความดีงาม ความทันสมัยตามไปด้วย ซึ่งเป็นเหตุให้เราพยายามเพิ่มความ ‘ขาว’ ในร่างกายกันให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจาก ผิวกาย รักแร้แล้ว สีของฟันก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์เราพยายามหาวิธีการทำให้มันดูขาวขึ้นกันตลอดมา ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีวิทยาการต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อตอบความต้องการนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำวัตถุดิบจากธรรมชาติ มาขัดถูฟันกรรมวิธีทางการแพทย์ หรือสารเคมีในยาสีฟันสูตรใหม่ แต่ความขาวที่เราตามหากันนั้น อาจต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง
เหลืองเป็นเรื่อง
ฟันเหลืองเป็นเรื่องปกติ แม้โดยทั่วไปเรามักพบเห็นสีฟันที่เป็นสีขาวมุกมันวาว แต่ฟันสีเหลืองนั้น ก็เป็นอีกสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากกรรมพันธุ์ได้ด้วยเช่นกันนอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีสีจัด หรือเครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟเป็นประจำ อมลูกอม สูบบุหรี่ก็ยิ่งเร่งปฏิกิริยาให้ฟันเหลืองได้มากยิ่งขึ้น การแปรงฟันไม่สะอาดพอ จนคราบแบคทีเรีย และหินปูน สะสมตามซอกฟันก็ทำให้ฟันดูออกเป็นสีเหลืองได้ด้วยเช่นกัน สีเหลืองที่เกิดขึ้นในช่องปากล้วนเกี่ยวโยงกับความไม่สะอาด ทำให้มนุษย์เราหาวิถีทางทำทุกอย่างเพื่อให้ฟันของเราขาวขึ้น ไม่ว่าจะเสี่ยงอันตรายแค่ไหนก็ตาม
ขาวตามธรรมชาติ
ใครๆ ก็อยากฟันขาวอย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราจึงพยายามเสาะหาวัตถุดิบจากธรรมชาติ มาใช้ขัดถูฟันกันอย่างไม่ลดละ เบกกิงโซดานั้นใครๆ ก็รู้ว่าใช้งานได้สารพัดประโยชน์แต่หากนำมาใช้ขัดฟันเพื่อหวังความขาวก็อาจมีผลทำให้สมดุลของแบคทีเรียในช่องปากเสียไปได้ น้ำมันมะพร้าวที่ครอบจักรวาลไม่แพ้กันก็ยังไม่มีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าจะทำให้ฟันของเราขาวขึ้นได้จริง สตรอว์เบอร์รี่หรือน้ำมะนาวที่เชื่อกันว่าหากนำมาขัดถูแล้วจะทำให้ฟันขาวขึ้น แต่แท้ที่จริงก็คือกรดจากผลไม้เหล่านี้ทำให้ฟันดูขาวได้เพียงช่วงสั้นๆแต่ปฏิกิริยาจากกรดเหล่านี้ที่ทำให้ส่วนผิวเคลือบฟันหลุดออกไปกลับยิ่งส่งผลร้ายต่อฟันของเราแทนในระยะยาว
ยาสีฟันบันดาลความขาว
ยาสีฟันที่ทำให้ฟันขาวนั้น ไม่ได้ทำให้ฟันขาวขึ้นจากเนื้อใน เพียงแต่ส่งผลต่อผิวของฟันในแง่ที่ขจัดคราบที่เกาะติดอยู่เท่านั้น การเติมผงขัดฟันที่หยาบกว่ายาสีฟันทั่วไป เพิ่มสารฟอกขาวในเนื้อยาสีฟันเหล่านี้ ทำให้ฟันขาวดูกว่าปกติในระยะแรก นอกจากนี้ยาสีฟันที่ทำให้ฟันดูขาว ก็มักจะใส่สีฟ้าเข้าไป ทำให้ฟันของเราดูขาวขึ้นเป็นระยะเวลาไม่นาน หากใช้เป็นเวลานานจะกัดกร่อนจนชั้นอีนาเมลสึก ส่งผลให้มีอาการเสียวฟัน เมื่อสัมผัสความร้อนความเย็นจากอาหารที่เราตักเข้าปาก แทรกซึมเข้าไปถึงเนื้อฟันชั้นในที่เชื่อมต่อกับปลายเส้นประสาท
ทันตแพทย์บันดาลความขาว
ทุกวันนี้ในคลินิกทันตกรรมทั่วไปมีบริการฟอกสีฟันให้ฟันดูขาวขึ้นเพื่อความงามเป็นจุดประสงค์หลัก โดยทั่วไปจะมีวิธีการฟอกสีฟัน 2 แบบ นั่นคือ แบบที่ 1 ทันตแพทย์ฟอกสีฟันให้ด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ความเข้มข้นสูงประมาณ 25-40 % ใช้ระยะเวลาในการบันดาลความขาวราว 45-60 นาที แบบที่ 2 ทันตแพทย์จะจัดอุปกรณ์ให้เราไปฟอกสีฟันเองที่บ้านด้วยไฮโดรเจเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นต่ำ แต่จะต้องใช้เวลานานถึง 2-3 สัปดาห์ แต่ความขาวนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะน้ำฟอกสีฟันเป็นสารเคมี จึงอาจทำให้เกิดอาการแสบเหงือก ระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก รวมทั้งอาจมีอาการเสียวฟันร่วมด้วย
บางคนที่มีสีฟันผิดปกติมากจนไม่อาจแก้ไขได้ด้วยการฟอกสีฟัน อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการทำผิวเคลือบฟันเทียม โดยเริ่มจากการกรอผิวเคลือบฟันด้านหน้าออก แล้วใช้วัสดุอุดที่มีสีเหมือนฟันปิดทับอีกทีเพื่อให้ได้สีของฟันอย่างที่ต้องการ แต่ด้วยความซับซ้อนของขั้นตอนนี้จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฟอกสีฟันมาก
ขาวอย่างเดียวไม่พอ
คงไม่ดีนักหากฟันขาวขึ้น แต่
เพราะสุขภาพเหงือก และฟันที่
อย่างแปรงสีฟัน CURAPROX ซึ่งร่วมพัฒนาโดยทันตแพทย์ผ
ด้ามแปรงทรงแปดเหลี่ยมจับง่
สอบถามข้อมูลการดูแลสุขภาพช ่องปากจากเพื่อนที่รู้ดีที่ สุดได้ที่ Facebook : CURAPROX TH
อ้างอิงข้อมูลจาก
http://betterteeththailand.com/
http://www.si.mahidol.ac.th/th/department/radiology/dept_article_detail.asp?a_id=94
https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/344/การดูแลช่องปากและความรู้เรื่องยาสีฟัน/
https://www.interdent.com/gentle-dental/resources/facts-myths-about-teeth-whitening/
http://www.cmruir.cmru.ac.th/bitstream/123456789/75/4/C1_391497.pdf
Content by Suwicha Pitakkanchanakul
Illustration by Suthawee Chotrattanasak