หลายคนอาจรู้จัก Grab ในฐานะของแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันเรียกรถ ก่อนจะพัฒนาให้เป็นได้มากกว่า ด้วยการเป็นซูเปอร์แอปที่พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจเคียงข้างคนไทย ตอกย้ำพันธกิจ ‘GrabForGood แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม
ทำให้เกิดงานเสวนา ‘GrabNEXT ยกระดับประเทศไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ซึ่งเป็นเวทีเสวนาประจำปี รวบรวมเหล่าผู้นำทางความคิดที่คร่ำหวอดในเชิงเทคโนโลยีและดิจิทัล มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมอง เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยมุ่งเน้นการเสวนาไปที่ 3 ประเด็นหลักคือ 1.Future of Work การทำงานแห่งโลกยุคใหม่ เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มของ Grab ได้อย่างเท่าเทียมและยั่งยืน 2.Digital Inclusion การส่งเสริมให้ผู้คนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์เทคโนโลยี และ 3.Sustainability & Environment การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม
และต่อไปนี้คือ สรุปใจความสำคัญจากการเสวนา โดย คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย ถึงเบื้องหลังในการพัฒนาเทคโนโลยีของ Grab ที่ช่วยเหลือคนไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน
เริ่มต้นเปิดการเสวนาในช่วงแรก คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย ได้เล่าถึงความตั้งใจของ Grab ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาในการสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ได้สร้างโอกาสให้กับคนที่ขาดรายได้ รวมถึงเป็นการสร้างช่องทางในการขายให้กับร้านค้าให้ดีขึ้นได้ จึงทำให้เกิดพันธกิจใหม่ ‘GrabForGood แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ที่ไม่ได้มุ่งสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับสังคมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยแบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ส่วนที่เคียงข้างทั้งคนขับ ร้านค้า และคนไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
สำหรับส่วนแรก ‘GrabForDrivers เคียงข้างคนขับ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ คุณวรฉัตรได้อธิบายถึงความเป็น Gig Economy รูปแบบการทำงานในโลกยุคใหม่ที่ Grab พร้อมมอบสิ่งดีๆ ที่มากกว่ารายได้ ประกอบไปด้วย 4 อ คือ
– อ1 อิสระ ช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับคนขับหลายแสนคน และมีจำนวนกว่า 71% ที่หารายได้จาก Grab เป็นอาชีพเสริม
– อ2 อยู่ร่วมกัน การที่ Grab สามารถเข้าถึงความหลากหลาย ทุกช่วงวัยและทุกเพศ สร้างโอกาสให้กับกลุ่มคนทั่วไป LGBTQ+ ผู้พิการ และผู้สูงอายุ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างเท่าเทียม
– อ3 อบรม การส่งเสริม Upskill ให้พาร์ทเนอร์คนขับ ผ่าน GrabAcademy หรือ Grabให้ความรู้ ตั้งแต่เรื่องของการใช้ภาษา การขับขี่ปลอดภัย ไปจนถึงการจัดการด้านการเงิน ซึ่งมีผู้เรียนมากกว่า 4 ล้านครั้ง
– อ4 อุ่นใจ มีระบบประกันอุบัติเหตุให้พาร์ทเนอร์คนขับทุกคนฟรี คุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท
จาก 4 อ ดังกล่าวในอดีต ได้นำไปสู่อนาคต เพื่อให้สังคมได้รับประโยชน์มากกว่าเดิม “ผ่าน อ ที่ 5 คือ ‘อดออม’ ที่จะสร้างก้าวแรกของการออมของพาร์ทเนอร์คนขับ” โดยเกิดขึ้นที่ Grab ผ่านโครงการต่างๆ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับประชากรผู้สูงอายุ ที่กำลังเพิ่มขึ้นถึง 17 ล้านคนในปี 2040 ให้สามารถมีรายได้และเข้าถึง Ecosystem ของ Grab ได้อย่างยั่งยืนและง่ายขึ้น โดยปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์คนขับผู้สูงอายุกว่า 3,700 คน และ Grab ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในปีนี้
ส่วนที่สองคือ ‘GrabForMerchants เคียงข้างร้านค้า เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ คุณวรฉัตรได้เล่าถึงการสร้าง Digital Inclusion ให้ร้านอาหารเล็กๆ หรือ SMEs สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์ม Grab เพื่อสร้างช่องทางการขายใหม่และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้ รวมถึงการริเริ่มโครงการ GrabAcademy หรือ Grabให้ความรู้ หลักสูตรออนไลน์ที่เชิญเหล่ากูรูทางการตลาดชื่อดัง มาให้ความรู้ตั้งแต่การเปิดร้าน การขายของออนไลน์ ไปจนถึงการทำการตลาดรูปแบบต่างๆ
ขณะเดียวกันก็ยังมองเห็นถึง Pain Point ของ SMEs ที่มีปัญหาด้านการเงิน จึงทำให้เกิดโครงการ ‘Grabการเงิน’ ปล่อยสินเชื่อรูปแบบใหม่แบบรายวัน ที่มีดอกเบี้ยน้อยกว่าธนาคาร เพื่อช่วยเหลือคนขับและร้านค้า โดยปล่อยเงินทุนหมุนเวียนไปแล้วกว่า 3,000 ล้านบาทให้ SMEs กว่า 18,000 ราย
นอกจากการให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้สูงอายุที่เป็นพาร์ทเนอร์คนขับแล้ว Grab ยังให้ความสำคัญกับเจ้าของร้านอาหารที่เป็นผู้สูงอายุ ด้วยการออกแบบหลักสูตรสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะถึง 5 คอร์สเรียน มอบโอกาสในการสร้างรายได้อย่างเท่าเทียม
จากทั้งสองส่วนข้างต้น นำไปสู่ส่วนที่สาม นั่นก็คือ ‘GrabForThais เคียงข้างคนไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ Grab ตั้งใจในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อสร้างความยั่งยืนและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมไทย
“เราหวังว่างานเสวนาในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่บริษัทเอกชนอย่าง Grab จะมีบทบาทต่อประเทศไทย เพื่อจะสร้างรูปแบบการทำงานรูปแบบใหม่ ทำให้คนไทยมีโอกาสในการเข้าถึงรายได้ ทำให้ร้านเล็กๆ มีโอกาสในการเข้าสู่ช่องทางการขายที่ดี และสามารถเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนได้” คุณวรฉัตรทิ้งท้ายถึงความตั้งใจของงานเสวนาในครั้งนี้