วิกฤตราคาพลังงานของโลกที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง จะด้วยเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศ หรือปัญหาขาดแคลนพลังงาน ล้วนส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของไทยสูงขึ้นตาม ซึ่งกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าในระดับครัวเรือน ไปจนถึงภาคธุรกิจที่ต้องแบกรับค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น
ทำให้พลังงานทดแทนอย่าง ‘พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์’ เป็นทางเลือกด้านพลังงานที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีบ้านหรือธุรกิจที่กำลังคิดจะปรับตัว อีกทั้งยังตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมในระยะยาว แต่ความกังวลที่ตามมาคือเรื่องของค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ที่คนทั่วไปยังมองว่าสูงเกินและเข้าถึงได้ยาก รวมไปถึงยังไม่มั่นใจในประสิทธิภาพว่าจะสามารถทดแทนพลังงานไฟฟ้าเดิมได้หรือไม่ ในขณะที่ภาคธุรกิจเองก็ยังไม่มั่นใจว่าการหันมาพึ่งพลังงานแสงอาทิตย์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนติดตั้งนั้น จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
เรียกว่าเป็นปัญหาซ้อนปัญหา ที่ทุกฝ่ายต่างกำลังหาทางออกร่วมกัน ทำให้ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank ธนาคารที่ดำเนินธุรกิจบนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับปัญหา Climate Change หรือภาวะโลกรวน จึงได้ริเริ่มโครงการ GO GREEN Together ประสานพันธมิตรทั้งระบบเพื่อเชื่อมต่อและผลักดันให้เกิด Green Ecosystem ที่จะทำให้ลูกค้าบุคคลและธุรกิจเข้าถึงทางเลือกพลังงานไฟฟ้า ที่จะช่วยประหยัดในระยะยาวและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมาย Net Zero ในประเทศไทยอย่างครบวงจร ชวนไปสำรวจเบื้องหลังโครงการนี้ ที่จะช่วยให้ทุกฝ่ายค้นพบทางออก เพื่อไปสู่โลกของเราที่ดีกว่า
วิกฤตพลังงาน ผลกระทบที่สะเทือนทุกฝ่าย
สุขภาพของโลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คือสิ่งที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้สึกได้ ตั้งแต่เรื่องของอุณหภูมิของโลกที่ร้อนขึ้น สภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อย เชื่อมโยงไปถึงเรื่องของพลังงานที่เริ่มขาดแคลน ขณะเดียวกันความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นผลกระทบทางการเมืองระหว่างประเทศ กลับส่งผลต่อราคาพลังงานจากยุโรปลามไปทั่วโลก ผลกระทบที่เกิดขึ้น นอกจากเรื่องวิถีชีวิตของผู้คนที่ต้องเปลี่ยนไปแล้ว คือเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ราคาน้ำมันที่กระทบต่อระบบขนส่ง ค่าไฟฟ้าครัวเรือน ไปจนถึงราคาก๊าซหุงต้มที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น เช่นเดียวกับภาคธุรกิจ เมื่อราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการผลิตสินค้าและบริการ แน่นอนว่าผลกระทบก็วนลูปกลับมาที่ผู้บริโภค ต่ออีกเป็นทอดๆ ไม่ว่าใครต่างก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงานไม่ต่างกัน
พลังงานทางเลือก หนึ่งในทางออกของวิกฤตพลังงาน
เมื่อวิกฤตพลังงานคือปัญหาใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไข นอกจากการประหยัดพลังงานแล้ว การใช้พลังงานทางเลือกอย่าง ‘พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์’ คือหนึ่งในโซลูชันด้านพลังงานที่ง่ายที่สุด แต่ความกังวลของคนทั่วไปเมื่อพูดถึงการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กลับเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ยังสูงเกินไป รวมไปถึงความไม่มั่นใจในประสิทธิภาพและความเสถียรของการผลิตไฟฟ้า แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลจากอดีต และแนวโน้มที่ผู้คนเริ่มหันมาสนใจมองหาการเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าที่ต้นทุนต่ำในระยะยาว ควบคู่กับการให้ความใส่ใจในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่มีเพิ่มขึ้น พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์จึงกลับมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยบ้านหนึ่งหลังเมื่อติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปขนาด 5 kW จะช่วยลดค่าไฟได้ประมาณ 36,500 บาทต่อปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ด้วยปัจจัยต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าที่สูงขึ้น จะมีส่วนหนุนให้ตลาดโซลาร์รูฟท็อปสำหรับภาคธุรกิจในปี 2565 ขยายตัวสู่ระดับ 125.9 เมกะวัตต์ หรือเติบโตราวร้อยละ 54.2 จากปีก่อน สะท้อนถึงกระแสของพลังงานทางเลือกที่กำลังได้รับความสนใจอีกครั้ง
GO GREEN Together โดย KBank เชื่อมต่อพันธมิตรต้นน้ำถึงปลายน้ำ แก้ไขปัญหาวิกฤตพลังงานแบบครบวงจร
จากปัญหาที่กล่าวไปข้างต้น สิ่งสำคัญคือเรื่องของต้นทุนในการเข้าถึงโซลูชันด้านพลังงาน ธนาคารกสิกรไทย จึงได้ริเริ่มโครงการ GO GREEN Together เมื่อต้นปี 2565 เพื่อเชื่อมต่อและผลักดันให้เกิด Green Ecosystem ในประเทศไทยอย่างครบวงจร โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือการสนับสนุนโซลูชันด้านพลังงานทดแทนผ่านตลาดโซลาร์รูฟท็อปเพื่อช่วยประหยัดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว พร้อมรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดย KBank ได้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือทั้งด้านสินเชื่อและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมให้แก่ผู้ใช้งานครบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ประกอบไปด้วย
ภาคครัวเรือน ในส่วนของผู้ที่มีบ้านอยู่ ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อ และโปรโมชันพิเศษจากบริษัทพันธมิตรต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ได้ง่ายขึ้น สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านใหม่ก็สามารถรับสินเชื่อภายใต้แคมเปญบ้านสีเขียว เพื่อกู้ซื้อบ้านใหม่แบบประหยัดพลังงานกับพันธมิตรบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวม 14 บริษัท จำนวนกว่า 400 โครงการ
ผู้ประกอบการธุรกิจเอง ก็สามารถรับสินเชื่อธุรกิจสำหรับโครงการลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้าภายในธุรกิจ รวมไปถึงผู้รับเหมาที่ให้บริการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ ทางธนาคารก็มีสินเชื่อเพื่อใช้หมุนเวียนและเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจ เพื่อให้ผู้รับเหมาสามารถรับงานได้อย่างคล่องตัวไม่สะดุด
อีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญคือการริเริ่มโครงการ SolarPlus ที่ KBank ร่วมกับพันธมิตร 4 พันธมิตรใหญ่ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม สมาร์ท โซลูชั่น จำกัด, บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อผลิตและขายพลังงานไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในไทย อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการลดค่าไฟฟ้า 20% ในส่วนของการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์อีกด้วย และธนาคารยังรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดที่เหลือจากการใช้งานของบ้านที่ร่วมโครงการนี้ เพื่อนำมาใช้ในเครือธนาคารกสิกรไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งกิจกรรมการใช้พลังงานสะอาดเพื่อเพิ่ม Carbon Handprint ให้กับองค์กร
กสิกรไทยคาดการณ์ว่าภาคครัวเรือนมีแนวโน้มให้ความสนใจในการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะมีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์มากถึง 80,000 ครัวเรือนภายในปี 2565 เลยทีเดียว ธนาคารจึงส่งมอบโซลูชันที่จูงใจ ช่วยให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มเข้าถึงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้ง่ายขึ้น
ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจของ KBank ที่ไม่ได้มุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจด้านการเงินเพียงเท่านั้น แต่ยังมีความมุ่งหวังจะช่วยสนับสนุนและผลักดันให้สังคมวงกว้างทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงการใช้พลังงานทางเลือก
และที่สำคัญคือการมุ่งสร้าง Green Ecosystem แก้ไขผลกระทบจากปัญหาวิกฤตพลังงาน เพื่อพาทุกคนก้าวไปสู่การสร้างสังคมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Society ด้วยกันตามเป้าหมายของประเทศและของโลกได้สำเร็จต่อไป