โรคระบาดคือความท้าทายใหญ่ยิ่งสำหรับธุรกิจโรงแรม ถึงขนาดที่ ‘ศุภจี สุธรรมพันธุ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือดุสิตธานี ถึงกับบอกว่า ตลอดการทำงาน 30 กว่าปี ไม่เคยเจออะไรโหดหินขนาดนี้ แต่ย้ำ ยังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้
The MATTER มีโอกาสได้สัมภาษณ์แม่ทัพหญิงแห่งดุสิตธานี ในวาระที่เครือดุสิตธานีเปิดตัวความร่วมมือกับ Local Alike ในการทำ ‘Local Experience & Wellness’ โปรแกรมนำนักท่องเที่ยวของโรงแรมลงท่องเที่ยวเชิงชุมชน ณ ชุมชนกุฎีจีน พื้นที่สำคัญฝั่งธนบุรี
ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ว่าคาดการณ์ปีหน้าของธุรกิจโรงแรมจะเป็นอย่างไร ซีอีโอหญิงแห่งดุสิตธานี สรุปให้ฟังก่อนเลยว่า ปีนี้เป็นปีที่ ‘ท้าทาย’ ส่วนปีหน้าคือปีแห่งการ ‘ปรับตัว’ แม้คนจะเดินทางไม่เหมือนเดิม แต่เธอเชื่อว่าผู้คนจะยังออกเดินทาง
ปีหน้าโรงแรมฟื้นตัวครึ่งปีหลัง
ผลประกอบการ Q3 ปีนี้ของเครือดุสิตธานี ค่อนข้างน่าพอใจ เพราะแม้จะไม่ทำกำไร แต่ฟื้นตัวดีขึ้นกว่า Q2 เห็นได้ชัด ส่วนในไตรมาสสุดท้ายของปี ศุภจีบอกว่า น่าจะฟื้นตัวมากกว่านี้
“ไตรมาส 3 ปีนี้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้น และน่าจะฟื้นตัวใน Q4 เพราะมีวันหยุดเพิ่มขึ้น รัฐก็ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านโครงการต่างๆ และยังมีข่าวการผลิตวัคซีนที่มีทิศทางไปในทางที่ดีมากจากหลายบริษัท”
“ส่วนปี 2021 คิดว่า ไตรมาส 1 และ 2 การท่องเที่ยวจะยังไม่กลับมาเป็นปกติ นักเดินทางน่าจะเข้ามาด้วย Special Purpose (เป้าหมายพิเศษ) เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รักษาตัว ตรวจสุขภาพ ส่วนการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาเป็นปกติก็ช่วงไตรมาส 3-4 ของปีหน้า” ศุภจี คาดการณ์ให้ฟัง
ปรับตัวตั้งแต่วันนี้ ทุกฝ่ายช่วยกันขายห้องพัก
ศุภจีแชร์เพิ่มเติมให้ฟังด้วยว่า ตอนนี้โรงแรมเครือดุสิตธานีในกรุงเทพฯ ได้รับความนิยมในช่วงเสาร์และอาทิตย์ และสาขาใกล้ๆ เมืองหลวง เช่น หัวหิน ก็เต็มช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และสามารถทำยอดจองได้ดีในวันธรรมดาด้วยเช่นกัน ขณะที่โรงแรมในจังหวัดที่ไกลออกไปหน่อย เช่น ภูเก็ต ยอดจองอาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับสองสาขาแรกที่กล่าวไป น่าจะเป็นเพราะไกล และต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน
เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2562 ยอดจองเข้าพักโรงแรมเครือดุสิตธานีเฉลี่ยอยู่ที่ 40% จากห้องพักทั้งหมด โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่พักโรงแรมเครือดุสิตธานีเป็นคนไทย 90% และ อีก 10% เป็นต่างชาติที่ทำงานอยู่ในไทย หรือนักการทูต
ส่วนเดือนตุลาคม-ธันวาคม ศุภจีคาดว่า ยอดจองห้องพักในเครือโรงแรมในไทย น่าจะเต็มครึ่งหนึ่ง หรือ 50% ของพักทั้งหมดทั่วประเทศ
ซีอีโอของดุสิตธานีบอกว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่ฝ่ายเซลล์ของโรงแรมเท่านั้นที่ทำหน้าที่ขายห้องพัก แต่ ‘ทุกฝ่าย’ ระดมแรงช่วยกันขายห้องพัก ภายใต้โปรเจกต์ ‘Selling Together Winning Together’ ศุภจีเล่าให้ฟังด้วยว่า พนักงานมีการแข่งขันกันระหว่างฝ่าย เป็นสีสันของช่วงเวลานี้ภายในองค์กรเลยก็ว่าได้ ซึ่งประสบความสำเร็จมาก เพราะเป้าหมายยอด 5 ล้านบาท กำลังจะสำเร็จภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์หลังจากเริ่มโปรเจกต์นี้
“เราบอกเสมอถึง 3 ข้อ กับพนักงานทุกคน หนึ่ง มั่นใจว่าเราต้องผ่านมันไปให้ได้ สอง ให้เขารับรู้สถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น และสาม ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราต้องทำอะไร ซึ่งพนักงานก็วิ่งกันสุดชีวิต”
เรื่องน่าเซอร์ไพรส์ก็คือ ไม่ใช่ฝ่ายเซลล์ที่เป็นแผนกขายห้องพักได้เยอะที่สุด แต่กลับเป็นฝ่ายกฎหมาย ตามมาด้วยฝ่ายบัญชี และฝ่ายไอที
ส่วนตัวแม่ทัพหญิงศุภจีเองก็ไม่น้อยหน้า เธอเล่าปนขำว่า เธอเองเพิ่งไปคุยงานมา ก็ขายห้องพักให้กับคอร์เปอเรตไปได้กว่าร้อยห้อง และเร็วๆ นี้เธอจะได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรให้กับงานสัมมนาของไมโครซอฟต์ เธอก็บอกให้ไมโครซอฟต์มาจัดที่โรงแรมดุสิตธานี และขายห้องพักเพิ่มได้อีก
“แบบนี้น่าเราจะเป็นยอดขายที่หนึ่งแล้วแหละ” ซีอีโอแห่งดุสิตธานีแซวตัวเอง
ท่องเที่ยวชุมชนคืออีกหนึ่งทางรอด
การระบาดของ COVID-19 ปิดตายประตูประเทศ ประเทศไทยที่เป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดุสิตธานี ภายใต้การนำของศุภจี เจ้าของฉายาซีอีโอนักแก้ปัญหา จึงขยายกิจการมาลงสู่การท่องเที่ยวเชิงชุมชน
โดยจับมือกับ Local Alike แฟลตฟอร์มเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับการท่องเที่ยวโดยชุมชน ครีเอทแพ็กเกจ ‘ห้องพัก + ทริปท่องเที่ยวชุมชน’ ในหลายจังหวัดที่มีโรงแรมเครือดุสิตธานีตั้งอยู่ ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, หัวหิน, กระบี่, พัทยา, ภูเก็ต
อย่างวันนี้ที่เราเจอศุภจีที่ชุมชนกุฎีจีน นี่ก็คือหนึ่งชุมชนที่นักท่องเที่ยวที่พักโรงแรมดุสิตธานีในกรุงเทพฯ จะได้ลงมาสัมผัสวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ดูการทำขนมฝรั่ง พูดคุยกับคนที่อยู่ในชุมชน และเยือนบ้านคหบดีเก่าที่ตอนนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชน
โดยแพ็กเกจห้องพักเริ่มต้นที่ 11,000 บาท สำหรับ 2 คน ได้ห้องพัก 3 วัน 2 คืน รวมรถรับส่งและอาหาร ศุภจีบอกว่า ดุสิตธานีเอาแค่ค่าห้องพัก ส่วนแบ่งรายได้นอกเหนือห้องพัก ให้ชุมชน 70% และ Local Alike 30%
ศุภจีให้ความเห็นต่อการเที่ยวเชิงชุมชนว่า เป็นเทรนด์ที่กำลังมา และเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชน ซึ่งถ้าไม่มาด้วยตัวเองก็จะไม่รู้ว่าหลายๆ ชุมชนในไทยมีของดีซ่อนอยู่มากมาย ซึ่งเมื่อดุสิตธานีริเริ่มแล้ว หากมีโรงแรมอื่นเริ่มตาม ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวประเทศดีขึ้นไปด้วย
ซึ่งทางดุสิตธานีตั้งเป้าว่าจะขายให้ได้โรงแรมละ 100 แพ็กเกจ ภายใน 3 เดือน รวมทั้งหมด 700 แพ็กเกจ
#Brief #business #TheMATTER