“เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลหวั่นใจและมีท่าทีต่อผู้ต้องหามาตรา 112 เปลี่ยนไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีหลายเคสที่ให้ประกันตัว แต่กลายเป็นว่ารอบนี้ไม่ให้ประกัน” เอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แสดงความเห็นถึงท่าทีของศาลต่อผู้ต้องหาคดีมาตรา 112
“รอบที่แล้วไม่ต้องประกันตัวก็ปล่อยแล้ว รอบนี้ต้องมาวัดดวง อย่างไรก็คงไม่ปล่อยง่ายๆ เพราะฝากขังไปแล้ว และมีทางเลือกเดียวคือจะให้หรือไม่ให้ประกันเท่านั้น”
เขากล่าวถึงท่าทีของศาลว่า “ศาลต้องมีธง เพราะรอบก่อนหน้านี้น้องๆ ได้ประกันหมด น่าจะเพราะ หนึ่งเพนกวินประกาศจัดม็อบ สองรัฐบาลอยากลองหยั่งกระแสม็อบ บวกกับทางเมียนมาอีก เขาคงกลัวว่าถ้ารอบนี้จุดติดจะคุมไม่อยู่ ก็เลยรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม”
“ปีที่แล้วม็อบปลุกขึ้น เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลก็หวั่นๆ แต่รอบนี้เมื่อ 2-3 วันก่อนพอเพนกวินประกาศจัดม็อบในวันนี้ เขาก็มีท่าทีต่อมาตรา 112 เปลี่ยนไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีหลายเคสที่ให้ประกันตัว ทั้งที่เคสเมื่อวานกลุ่มนี้เข้าไปพร้อมกับคดีขบวนเสด็จของพี่ และตอนนั้นพวกนั้นไม่ได้ประกันโดนมาตรา 116 แต่สุดท้ายศาลก็ปล่อยฝากขัง”
เอกชัยตอบคำถามถึงการแถลงของเจ้าหน้าที่ถึงสถาการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และพระราชกำหนดฉุกเฉินว่า “มันเป็นข้ออ้างหมด คราวที่แล้วก็อ้าง COVID-19 ถ้ามัวแต่มานั่งแคร์ก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละ”
“แต่เจ้าหน้าที่จะยกระดับไหม มันอยู่ที่จำนวนคนเข้าร่วม แต่ถ้าวันนี้ดูแล้วคงไม่มีการใช้ความรุนแรง แต่น่าจะมีข้อหาตามหลัง แต่ก็ไม่แน่อีก เพราะเขาอาจจะส่งเจ้าหน้าที่ไปซุ่มที่ไหนก็ได้” เอกชัยกล่าวถึงมาตรการควบคุมฝูงของเจ้าหน้าที่ในวันนี้ พลางมองไปรอบตัวที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ทุกมุมของสกายวอล์คสี่แยกปทุมวัน