เสรีภาพนำมาซึ่งความคิดใหม่ๆ เช่นเดียวกันกับภาพยนตร์ ล่าสุด รัฐบาลอิตาลีเพิ่งประกาศยกเลิกการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ บนฐานการพิจารณาจากเรื่องศีลธรรม และหลักความเชื่อทางศาสนาแล้ว
“การเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ได้ถูกยกเลิกลงแล้ว” ดาริโอ ฟรังเชสชินี (Dario Franceschini) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลี ประกาศในแถลงการณ์ของกระทรวง “ระบบของการควบคุมและแทรกแซงของภาครัฐ ต่อการก้าวก่ายเสรีภาพของศิลปิน มาถึงกาลอวสานอย่างถาวรแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
การยกเลิกการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ของอิตาลี จะถูกแทนที่ด้วยการแบ่งหมวด ตามเกณฑ์อายุคนดู ได้แก่ ภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีลงมา, เด็กที่มีอายุมากกว่า 14 ปีขึ้นไป (หรือ 12 ปีขึ้นไป โดยมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ), และผู้ชมที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป (หรือ 16 ปีขึ้นไป โดยมีผู้ปกครองให้คำแนะนำ)
อิตาลีมีกฎหมายการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ ซึ่งสามารถย้อนกลับไปได้ถึงราว ค.ศ.1913 ทั้งนี้ การยกเลิกกฎหมายฉบับดังกล่าว จะทำให้ผู้กำกับ หรือศิลปินผู้สร้างภาพยนตร์ สามารถแยกหมวดหมู่ภาพยนตร์ของตนเอง ตามช่วงวัยของผู้ชมได้ โดยจะมีคณะกรรมการผู้ชำนาญการ 49 คน ที่จะถูกเลือก จากคนในวงการภาพยนตร์ มารับรองการจัดหมวดหมู่ของผู้กำกับ และศิลปินอีกที
ภาพยนตร์กว่าหลายร้อยเรื่องในอิตาลี ถูกแบนและเซ็นเซอร์ มาตลอดเวลาร่วมศตวรรษ ของกฎหมายการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ จากผลสำรวจของ Cinecensura ระบุว่า มีภาพยนตร์อิตาลีจำนวน 274 เรื่อง สหรัฐฯ 130 เรื่อง และจากประเทศอื่นๆ อีก 321 เรื่อง ที่ถูกทางการอิตาลีแบน นับตั้งแต่ ค.ศ.1944 โดยเหตุผลในการเซ็นเซอร์ส่วนใหญ่ มักหนีไม่พ้นเหตุผลในด้านการเมือง ศีลธรรม และศาสนา
หนึ่งในภาพยนตร์ชื่อดัง ที่ถูกกฎหมายฉบับนี้เซ็นเซอร์ คือ Last Tango In Paris ของผู้กำกับ แบร์นาโด แบร์โตลุชชี (Bernardo Bertolucci) นำแสดงโดย มาร์ลอน แบรนโด (Marlon Brando) ซึ่งถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสกาใน ค.ศ.1972 เช่นเดียวกันกับ กรณีการแบนที่โด่งดังในอิตาลี ต่อภาพยนตร์เรื่อง Toto Who Lived Twice ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากกลุ่มคาทอลิกหัวอนุรักษนิยม เนื่องจากมีเนื้อหาล้อเลียนศาสนาคริสต์
ผู้กำกับและศิลปินในอิตาลีหลายคน ออกมาให้ความเห็นว่า การยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ เป็น “ก้าวที่สำคัญ และเป็นก้าวแห่งประวัติศาสตร์ ของวงการภาพยนตร์อิตาลี” ในขณะที่ศิลปินบางคน ออกมาให้ความเห็นเชิงแย้งว่า “(กฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์) จะทำให้ภาพยนตร์น่าเย้ายวน และดึงดูดความสนใจของสาธารณชนได้ โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ”
อ้างอิงจาก
https://www.wantedinmilan.com/news/italy-scraps-film-censorship.html
https://www.france24.com/en/live-news/20210406-final-curtain-for-italian-film-censorship
#Brief #TheMATTER