หากพูดถึงเสน่ห์ของตึกราวบ้านช่องในประเทศไทย หลายคนอาจจะนึกถึงบ้านทรงไทยหลังคาจั่ว หรือวัดวาอารามที่ประดับประดาสวยงาม แต่อาจจะมองข้ามตึกแถว อาคารพาณิชย์ ตู้โทรศัพท์สาธารณะ หรือเหล็กดัดที่เป็นลวดลายตามประตูหน้าต่าง ซึ่งยุคหนึ่งเคยเป็นที่นิยม เห็นได้ทั่วไป และบอกเล่ากลิ่นอายวิถีชีวิตของคนในยุคนั้นได้ดี
.
ซึ่ง ธนเบศร์ ชาญปรีชญา หรือ อาร์มี่ อายุ 25 ปี ผู้จบจาก Academy of Art University สาขา 2D and Traditional Animation ด้าน Stop Motion ก็ได้หยิบนำกลิ่นอายที่ว่านี้มาสร้างเป็นโมเดลขนาดจิ๋วสเกล 1:24 แต่สามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ครบ จนโมเดลออกมาเสมือนจริงราวกับภาพถ่าย ด้วยความสนใจในผลงาน The MATTER จึงทักไปพูดคุยกับธนเบศร์ถึงที่มาของไอเดียนี้
.
“ตอนที่มีไอเดียเริ่มทำโมเดล ผมอยากทำโมเดลที่สะท้อนความเป็นไทย เสน่ห์แบบไทยๆ ที่ผมคุ้นชินและผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะผมเป็นคนกรุงเทพด้วย บวกกับเวลานั่งรถ ผมจะชอบมองข้างทาง มองตึก มองถนน มองวิถีชีวิตของคนตามท้องถนน จึงเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่สะท้อนความเป็นไทย เช่น ป้ายเงินกู้ หมูกระทะ หรือป้ายโฆษณาต่างๆ ที่ติดอยู่ตามตู้โทรศัพท์ กองขยะที่วางอยู่เกลื่อนฟุตบาท ระเบิดน้ำเน่า หรือสายระโยงระยางตามเสาไฟฟ้า ซึ่งหลายคนอาจจะไม่อยากพูดถึงกันเท่าไหร่
.
ส่วนตึกแถว ป้ายเหล็กของห้างทอง หรือความนิยมของเหล็กดัดในยุคสมัยหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะขับรถไปที่ไหน เราก็เห็นได้ทุกที่ ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ในรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่เราผูกพันตั้งแต่เด็กๆ ครับ”
.
แน่นอนว่าธนเบศร์สามารถเก็บรายละเอียดเหล่านี้ ลงมาอยู่ในโมเดลจิ๋วของเขาได้อย่างครบถ้วน ไม่เว้นแม้แต่ป้ายโฆษณาที่ขาดลอกออกจากตู้โทรศัพท์สาธารณะ คราบสนิมเก่าๆ ที่เกาะอยู่ตรงประตูเหล็กของห้างทอง หรือแม้กระทั่งถุงลูกชิ้นเปื้อนน้ำจิ้มที่ทิ้งอยู่นอกถุงดำ จนนึกสงสัยว่าถ้านำผลงานเหล่านี้ไปสร้างรายได้ก็อาจจะดีไม่ใช่น้อย และคิดว่ามีใครหลายคนกำลังสนใจที่จะซื้ออยู่
.
“ส่วนใหญ่คนจะสนใจจ้างทำมากกว่า อย่างโมเดลร้านห้างทองก็มีคนติดต่อขอซื้อเยอะครับ แต่ผมคิดว่าจะไม่ขายชิ้นนี้ เพราะผมไม่ได้มีเจตนาจะขายตั้งแต่แรก แล้วก็ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของของตึกก่อนด้วย ส่วนตู้โทรศัพท์อาจจะปล่อยขายในอนาคตครับ ทั้งนี้ก็ต้องขอโทษเจ้าของตึกทั้งสองห้องด้วย แล้วก็ขอบคุณที่เข้าใจเจตนาของผมครับ”
.
นอกจากนี้ ธนเบศร์เล่าว่า เขาใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนในการสร้างโมเดลแต่ละชิ้นขึ้นมา โดยได้มีการไปสำรวจถ่ายรูปก่อน แต่เนื่องจากไม่สามารถนำตลับเมตรไปวัดได้ จึงกลับมาขึ้นแบบ 3D ในโปรแกรม เพื่อดูความสมส่วนของขนาดตึกและองค์ประกอบ อ้างอิงจากรูปและข้อมูลความสูงของประตูและหน้าต่างในอินเทอร์เน็ต พอได้ขนาดจริงออกมา ก็ค่อยย่อขนาดให้เหลือเป็นสเกล 1:24 อีกที
.
“ผมชอบการที่ได้คิดว่าจะทำแต่ละชิ้นออกมายังไงให้ดูสมจริงมากที่สุด แล้วพอผลงานออกมาเป็นไปตามที่ตั้งไว้ใจ มันก็มีความสุขครับ”
.
สำหรับใครที่อยากดูผลงานเพิ่มเติมหรืออยากติดต่อทำโมเดล ก็สามารถเข้าไปได้ที่เฟซบุ๊ก
CALL ME NABET
และอินสตาแกรม callmenabet
.