หลังเริ่มมีกระแสผู้ฉีดวัคซีน COVID-19 หลายรายมีอาการข้างเคียงในลักษณะต่างๆ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ประชุมเพื่อหาแนวทางเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน โดยล่าสุดที่ประชุมมีมติ ให้ปรับเกณฑ์และแนวทางการจ่ายบริการ COVID-19 ดังนี้
สำหรับเกณฑ์การจ่ายเงินคุ้มครอง กรณีที่ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีน COVID-19 จะแบ่งเป็น
– ตาย หรือทุพพลภาพถาวร ได้รับการเยียวยาไม่เกิน 400,000 บาท
– เสียอวัยวะ หรือพิการ ได้รับการเยียวยาไม่เกิน 240,000 บาท
– บาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง ได้รับการเยียวยาไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ สปสช. จะตั้งกลไกเพื่อดำเนินการจ่ายเงินภายใน 5 วัน หลังยื่นคำร้อง
นอกจากเงินคุ้มครองการฉีดวัคซีน สปสช. เห็นชอบให้ปรับเกณฑ์และแนวทางการจ่ายบริการ COVID-19 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ได้แก่
- ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับโรค COVID-19 จะเพิ่มการจ่ายสำหรับบริการฉีดวัคซีน COVID-19 อัตราครั้งละ 20 บาท
- เตรียมหลักเกณฑ์แนวทางการจ่ายเงิน สำหรับกระทรวงสาธารณสุข โดยประกาศมาตรฐานการดูแลผู้ป่วย COVID-19 ที่แยกกักตัวที่บ้าน รวมถึงผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาในที่พักอาศัย ภายใต้การดูแลของหน่วยบริการ
- นอกจากจะจ่ายเงินชดเชยตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (DRG) จะจ่ายชดเชยเพิ่มเติมไม่เกินวันละ 1,000 บาท รวมอาหาร 3 ให้กับหน่วยบริการสาธารณสุขต่างๆ
– สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น 3 อย่าง ได้แก่ เครื่องวัดความดัน, ปรอทวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว โดยใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ วงเงินไม่เกิน 22 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เพิ่มอัตราจ่ายค่าบริการผู้ป่วย ในกรณีให้บริการในเขต เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยจะเพิ่มอัตราการจ่ายตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมใหม่ จาก 8,350 บาทต่อน้ำหนักสัมพัทธ์ เป็น 8,750 บาทต่อน้ำหนักสัมพัทธ์ ซึ่งจะประมวลผลจ่ายตามผลงานย้อนหลังเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 – กันยายน พ.ศ. 2564 ใช้งบประมาณเพิ่ม 2,596.13 ล้านบาท
อ้างอิงจาก
https://news.thaipbs.or.th/content/304021