ความรู้สึกเบื่อหน่าย โดดเดี่ยว จากการกักตัว ไม่ได้เกิดแค่ในคนหนุ่มสาว แต่หมายรวมถึงผู้สูงอายุ การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์จึงถูกออกแบบมา เพื่อช่วยลดช่องว่างดังกล่าว และล่าสุด มีงานวิจัยระบุว่า มันยังสามารถเป็นตัวช่วย ให้ผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงการเกิดโรคสมองเสื่อมได้อีกด้วย
งานวิจัยล่าสุด จากมหาวิทยาลัยเวสต์ลอนดอน กับมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ พบว่า ผู้สูงอายุจากกลุ่มตัวอย่างชายและหญิง ซึ่งมีทักษะการฟังปกติ ในช่วงอายุระหว่าง 50 ถึง 90 ปี จำนวน 11,418 คน ที่มีปฏิสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Zoom, Microsoft Team หรือแม้แต่กระทั่ง TikTok สามารถหลีกเลี่ยง อัตราการเกิดโรคสมองเสื่อมได้
จากการศึกษาตลอด 15 ปี ของงานวิจัยชึ้นนี้พบว่า ผู้สูงอายุ ที่ใช้ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ มากกว่าผู้สูงอายุทั่วไป ควบคู่กันกับการสื่อสารปกติ และผ่านทางโทรศัพท์ จะทำให้การเสื่อมถอยของความจำอาศัยเหตุการณ์ ลดลงไปได้อย่างชัดเจน โดยความจำอาศัยเหตุการณ์ คือความสามารถในการระลึกถึงเหตุการณ์ ที่มีความหมายต่อบุคคลนั้นๆ ลดถอยลง ก็อาจเป็นสัญญาณของอาการสมองเสื่อมได้
ผศ.สนอร์รี รัฟฟุนสัน (Snorri Rafnsson) จากมหาวิทยาลัยเวสต์ลอนดอน นักวิจัยหลักในการศึกษาครั้งนี้ ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ Journals of Gerontology ระบุว่า “การมีปฏิสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยีทางออนไลน์ จะสามารถทำให้ผู้สูงอายุกระตุ้นระบบความจำอยู่ตลอด การมีปฏิสัมพันธ์ผ่านช่องทางที่หลากหลายนั้น นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันแล้ว ยังส่งผลดีต่อสมองอีกด้วย”
รัฟฟุนสัน กล่าวอีกว่า ผู้สูงอายุ “ยิ่งชำนาญการใช้หลายแพลตฟอร์ม ยิ่งส่งผลดีมากยิ่งขึ้น” โดยเขาย้ำว่า การเห็นผู้สูงเริ่มเล่น TikTok และ Instagram มากยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นผลดี ต่อการทำงานของสมองของพวกเขาและเธอ ซึ่งมันจะทำให้สมองได้กระตุ้นระบบความจำ และช่วยลดโอกาสของโรคสมองเสื่อมได้ดี
สิ่งที่น่าสนใจจากการศึกษา อาสาสมัครผู้สูงอายุนับหมื่นคน รัฟฟุนสันพบว่ากว่า 91 เปอร์เซ็นต์ของคุณตาคุณยาย ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป มีบัญชีผู้ใช้ Facebook เป็นของตัวเอง ในขณะที่ Ofcom เปิดเผยว่า ผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี กว่า 77 เปอร์เซ็นต์ มีอินเทอร์เน็ตใช้ในบ้าน 55 เปอร์เซ็นต์มีสมาร์ทโฟน และ 59 เปอร์เซ็นต์ มีบัญชีผู้ใช้ออนไลน์ จึงอาจเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า นอกจากอัตราการเกิดโรคสมองเสื่อมที่ลดต่ำลงแล้ว ภาพจำว่าผู้สูงอายุไม่เท่าทันโลกออนไลน์ อาจจะไม่ใช่ความเป็นจริงอีกต่อไป
อ้างอิงจาก
https://academic.oup.com/psychsocgerontology/article/76/1/101/6006262
#Brief #TheMATTER