ดูเหมือนว่าสิ่งที่เหล่านักวิทยาศาสตร์กังวลจะเกิดขึ้นแล้ว หลังองค์การสหประชาชาติ (UN) รายงานว่า พบโดรนติดอาวุธออกไล่ล่ามนุษย์ที่ประเทศลิเบีย เมื่อเดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2020 ซึ่งถือเป็นเกิดครั้งแรกที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โจมตีมนุษย์เอง โดยไม่มีการควบคุม
รายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ.2020 ที่ประเทศลิเบีย โดยโดรนคาร์กู-2 ซึ่งมีการติดตั้งระเบิด และมีความสามารถในการโจมตีในรูปแบบกามิกาเซ่ ถูกนำมาใช้งานในสมรภูมิการต่อสู้ระหว่างกองทัพของรัฐบาลลิเบีย และกลุ่มต่อต้านนำโดยคาลิฟา ฮาฟตา (Khalifa Haftar) แห่งกองทัพลิเบีย
ตัวโดรนถูกตั้งค่าให้ทำงานในโหมดอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งไม่ต้องอาศัยการควบคุมจากมนุษย์ ในรายงานอธิบายเพิ่มเติมว่า “ระบบอาวุธที่ติดตั้งในโดรนมีอันตรายถึงชีวิต อีกทั้งยังได้รับการตั้งโปรแกรมให้สามารถโจมตีเป้าหมายโดยไม่ต้องเชื่อมต่อข้อมูลกับผู้บัญชาการ ผลที่ได้คือ โดรนคาร์กู-2 มีความสามารถในการ ยิง – ลืม – และค้นหาต่อไป โดยไม่ต้องรอคำสั่ง” นอกจากนี้ โดรนยังมีความสามารถในการจับเป้าหมายทั้งแบบหยุดยิ่ง และแบบเคลื่อนที่ผ่านการประมวลผลแบบเรียลไทม์
แซค เคลเลนบอร์น (Zak Kellenborn) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ที่เชี่ยวชาญด้านระบบไร้คนขับและโดรน ยืนยันในรายงานว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์โดรนติดอาวุธออกไล่ล่ามนุษย์ด้วยความสามารถของมันเอง โดยไม่ต้องอาศัยการควบคุมจากผู้บังคับบัญชา
ด้วยคุณสมบัติของมันทำให้หลายคนกังวลว่า ท้ายที่สุดอาวุธเหล่านี้อาจกลายมาเป็นภัยคุกคามของมนุษย์ในอนาคต ฮิวแมนไรตส์วอตช์ (Human Rights Watch) ซึ่งเป็นองค์กรส่งเสริมสิทธิมนุษยชน จึงออกมาเรียกร้องให้ยุติการพัฒนาอาวุธที่สามารถควบคุมตัวเองได้ รวมถึงหยุดการสร้าง ‘หุ่นยนต์นักฆ่า’ โดยระบุว่า อาวุธที่มีความอิสระในการคิดอาจอยู่นอกเหนือขอบเขตของมาตรฐานกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และท้ายที่สุด มันอาจนำมาสู่การคุกคามสิทธิขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิต และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ทั้งนี้ แม้ว่าในรายงานที่สหประชาชาติแถลงการณ์จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่า มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการโจมตีด้วยโดรนคาร์กู-2 หรือไม่ แต่ความจริงที่ว่าอาวุธดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากพอจะทำให้ผู้คนบาดเจ็บจำนวนมาก อาจทำให้พอจะอนุมานได้ว่าแท้จริงแล้วอาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือถึงขั้นเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวอย่างแน่นอน
อ้างอิงจาก
https://www.iflscience.com/…/an-autonomous…/…
https://nypost.com/…/us-russia-block-formal-discussion…/
https://www.businessinsider.com/killer-drone-hunted-down…