พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ระบุว่า “ต้ังเป้า ประเทศไทยต้องเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน และเราการจัดการที่ดีของเราทำให้เราเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
โดยนายกฯ เริ่มเปิดประเด็นว่า ที่ผ่านมา ตนได้ทำงานกับหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด ฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เป็นวิธีเดียวกับที่เคยใช้ในตอนเริ่มต้น วิธีแบบนี้ช่วยให้เราเดินหน้าต่างๆ ได้รวดเร็ว ทำให้เดินหน้าเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนใหม่ๆ โดยมีการเจรจากับวัคซีนแล้ว 6 รายแล้วได้แก่ ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดิร์นน่า, รวมถึง แอสตรา เซเนกา, ซิโนแวค, และซิโนฟาร์ม
ซึ่งนายกฯ ยืนยันการจัดหาวัคซีน 105.5 ล้านโดส ทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ปีนี้ จะทยอยส่งเข้ามา และจะทยอยฉีดไป จะเดินหน้าหาวัคซีนอีกปีหน้า จะฉีดได้เฉลี่ยนกว่าเดือนละ 10 ล้านโดส และคาดว่า ประชาชน 50 ล้านคนจะ ฉีดเข็มแรกในเดือนตุลาคม
ในการแถลงครั้งนี้ ประเด็นสำคัญคือนายกฯ ตั้งเป้าไว้ว่าประเทศไทยจะเปิดประเทศให้ได้ 120 วันต่อจากนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทำมาหากินได้ โดยเมืองท่องเที่ยวควรทยอยให้เร็วกว่านั้น เพื่อให้คนที่ฉีดวัคซีนไม่ต้องมีเงื่อนไข หรือกักตัว เดินทางได้ รวมถึงคนไทยที่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ สามารถกลับประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว ขอให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ เร่งทำงานเพื่อจะเปิดสถานที่ต่างๆ ตามกรอบเวลา ซึ่งต้องฉีดวัคซีนให้ได้ประสิทธิภาพ จะเริ่มนำร่องที่ภูเก็ต ด้วยกรอบเวลานี้ หลายประเทศน่าจะผ่อนคลายให้เปิดประเทศ และจะเดินทางประเทศไทย
“ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่า อยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายใน สำหรับประเทศไทยของเรา เพื่อให้ประเทศ เดินหน้าต่อไปได้”
นายกฯ ยังย้ำว่า ภารกิจของผมคือการรักษาชีวิตพี่น้องคนไทยไม่ให้เสียชีวิตจำนวนมาก ไม่ใช่แค่การปกป้องคนที่รับเชื้อ แต่เป็นการปกป้องคนทั้งครอบครัว ซึ่งทำให้ไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก รวมถึงยังรักษาความล้มเหลวของระบบสาธารณสุข และภารกิจต่อไปของคือการทำให้ประชาชนกลับมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด ต้องทำใจว่าทั่วโลกต้องอยู่กับไวรัส แต่เราไม่สามารถรอให้ไวรัสหมดไปจากโลก หรือรอให้ทุกคนฉีดวัคซีนครบ 2 โดสจึงเปิดประเทศ เราต้องเรียนรู้จะอยู่กับมันให้ได้ จัดการให้ควบคุมได้ ให้พี่น้องออกมาทำมาหากินได้
ซึ่งนายกฯ ย้ำว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่แก้ปัญหาได้ดีที่สุด แม้ในความเป็นจริง เราจะเห็นตัวอย่างได้จากในหลายประเทศว่า การส่งมอบวัคซีนจากผู้ผลิตรายต่างๆ อาจจะไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งเรื่องล่าช้า หรือไม่ครบจำนวนตามที่ตกลง แต่ประเทศไทยเรา ต้องบริหารจัดการตรงจุดนี้ให้ดี
โดยระยะสั้น นโยบายคือ ให้ประชาชนทุกคนควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และในระยะยาว การจัดการกับโควิด-19 คือ การมีฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งอยู่ในประเทศของเราเอง ซึ่งจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ในระยะยาวต่อไป ตราบเท่าที่เราต้องการ
#Brief #TheMATTER