กระแสเรียกร้องและกดดันให้รัฐบาล เร่งจัดหาและจัดสรรวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ต่อการป้องกัน COVID-19 ในใช้ในไทย เกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อเดลตาที่ย่ำแย่ลง โดยกลุ่มแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล เพิ่งออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลจัดหาและจัดสรรวัคซีนประสิทธิภาพสูงมาใช้ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน
แถลงการณ์ในครั้งนี้ มีแพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด และอาจารย์แพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รวมกว่า 604 ชื่อ ร่วมกันเรียกร้อง ขอให้รัฐบาลจัดหาและจัดสรรวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกคนอย่างรวดเร็วที่สุด
ในแถลงการณ์ระบุว่า ปัจจุบันนี้ บุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีน COVID-19 แล้ว กลับมีหลักฐานปรากฏว่า ยังมีการติดเชื้อ COVID-19 ได้อยู่ ซึ่งทำให้เห็นว่าได้ว่า วัคซีนเชื้อตายที่ถูกจัดสรรมาโดยรัฐบาล ซึ่งกลายเป็นวัคซีนที่ถูกใช้เป็นหลักของประเทศ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยได้
จากแถลงการณ์ชี้ว่า วัคซีนเชื้อตายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลรักษาผู้ป่วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นนโยบายการบริหารวัคซีน ที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง อีกทั้งการสื่อสารให้ข้อมูล จากทางรัฐบาลเป็นไปด้วยความสับสน และทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัย ทั้งความถูกต้องทางวิชาการ ความโปร่งใสของรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง การดำเนินการที่ล่าช้า ทำให้ประเทศไทยยังไม่มีวัคซีน ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อประชาชน ในการรับมือเชื้อเดลตาได้
ด้วยเหตุนี้ ทางกลุ่มแพทย์ผู้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ จึงขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องให้รัฐบาล จัดหาและจัดสรรวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น mRNA และ Protein subunit เข้ามาใช้ในไทย เพื่อส่งผลประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และเรียกร้องขอให้รัฐบาล ปิดเผยขั้นตอนการจัดหาและจัดสรรวัคซีน ทั้งที่ผ่านมาและกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ว่าการดำเนินทั้งหมดทำขึ้นด้วยความสุจริต ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว มีงานวิจัยศึกษาประสิทธิภาพวัคซีน Sinovac จากทางมหาวิทยาลัยมหิดล ได้ข้อสรุปการวิจัยว่า วัคซีน Sinovac ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์อัลฟา เดลตา และเบตาได้ โดยค่าภูมิคุ้มกันที่ควรมีอย่างต่ำที่สุด ในการป้องกันการติดเชื้อได้ ควรมีในระดับสำคัญที่สุดอยู่ที่ 640 อย่างไรก็ดี จากการวัดอัตราภูมิคุ้มกันในกลุ่มตัวอย่างงานของวิจัยพบว่า ผู้ที่ได้รับการฉีด Sinovac กลับมีค่าภูมิคุ้มกันในการป้องกันเชื้ออัลฟาอยู่ที่ 40 เชื้อเบตาอยู่ที่ 20 และเชื้อเดลตาอยู่ที่ 10 เป็นหลักฐานชี้ชัดว่า วัคซีนของ Sinovac ไม่สามารถป้องกันผู้ได้รับวัคซีน จาก COVID-19 ที่กำลังระบาดในไทยได้เลย
อ้างอิงจาก
https://thematter.co/brief/149147/149147
#Brief #TheMATTER