ยังเป็นประเด็นที่ต้องตามอย่างต่อเนื่องสำหรับ วัคซีน Pfizer จำนวน 1.5 ล้านโดสที่สหรัฐฯ บริจาคให้ไทย ซึ่งจะเดินทางมาถึงในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ว่าหน่วยงานไหนและใคร จะได้โควต้าวัคซีนในล็อตนี้ไปบ้าง
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มหมอไม่ทนได้ออกมาชวนประชาชนจับตามองการบริหารวัคซีน Pfizer อย่างใกล้ชิด ว่าจะเป็นไปตามประกาศของกรมควบคุมโรคหรือไม่ ที่ระบุว่า คนที่เข้าเกณฑ์รับวัคซีนล็อตนี้ มี 4 กลุ่ม ได้แก่ แพทย์ด่านหน้า (ใช้สำหรับกระตุ้นเข็มที่ 3), กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง, ชาวต่างชาติในไทย เน้นไปที่กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง และผู้มีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ
หมอไม่ทนกล่าวว่า ที่ผ่านมา สถาบันแพทย์หลายแห่งออกนโยบายให้แพทย์ด่านหน้ารับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เป็น AstraZeneca และบางส่วนถูกโน้มน้าวให้เชื่อว่าวัคซีน Pfizer จะไม่ได้เข้ามาไทยจริง ทางหมอไม่ทนจึงตั้งข้อสังเกตว่า เพราะอะไรจึงรีบร้อนเร่งรัดให้แพทย์ด่านหน้าได้ฉีดวัคซีน AstraZeneca
กลุ่มหมอไม่ทน จึงอยากชวนประชาชนให้ช่วยกันจับตามองการจัดสรรวัคซีน Pfizer จำนวน 1.5 ล้านโดสที่จะนำเข้ามาในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้วัคซีนไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ควรได้รับ ตามระดับความเสี่ยงและความจำเป็น ไม่ถูกแบ่งไปให้หน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง
พร้อมยืนยันว่า บุคลากรแพทย์ควรได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุก็ควรได้รับวัคซีน Pfizer เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ และลดระดับความรุนแรงของโรค มากกว่าวัคซีนที่มีการศึกษาแล้วว่าประสิทธิภาพไม่เพียงพอต่อการป้องกันไวรัสกลายพันธุ์
นอกจากประเด็นการจัดสรรวัคซีน หมอไม่ทนยังเรียกร้องให้มีการนำวัคซีนชนิด mRNA มาเป็นวัคซีนหลักให้กับคนไทย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ได้ยืนยันถึงประเด็นการจัดสรรวัคซีนว่า Pfizer จำนวน 1.5 ล้านโดสที่จะนำเข้ามาปลายเดือนนี้นั้น จะใช้เพื่อฉีดให้กลุ่มเป้าหมายทั้ง 4 กลุ่มที่กล่าวถึงไปข้างต้นอย่างแน่นอน
อ้างอิงจาก
https://www.komchadluek.net/news/regional/475609
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6525156
https://www.thairath.co.th/news/politic/2148129