แม้จะล็อกดาวน์มาเกือบ 1 เดือน แต่สถานการณ์ก็ยังไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น แพทย์จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธออกมาเตือนว่า 100 วันจากนี้จะเป็น 100 วันอันตราย ที่การล็อกดาวน์ใดๆ ก็ควบคุมไม่ได้ มีเพียงวัคซีนที่ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลาย พร้อมแนะนำให้รัฐบาลใช้ พ.ร.บ.ควบคุมการส่งออกวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อนำวัคซีนมาให้คนไทยใช้ก่อน
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ออกมาเตือนว่า “100 วันข้างหน้าจะเป็น 100 วันอันตราย” ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่แท้จริงของประเทศไทยอาจเพิ่มขึ้นเป็น 35 ล้านคน หมายถึงคนไทยครึ่งประเทศจะติดเชื้อ และจะมีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 3 หมื่นคน
หมอมนูญบอกว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มข้นไม่สามารถควบคุมการระบาดได้อีกแล้ว ต่อไปการอยู่บ้านจะไม่สามารถหยุดเชื้อได้ เพราะบ้านจะกลายเป็นแหล่งระบาดสูงสุด ดังนั้นรัฐจึงควรพิจารณาผ่อนคลายมาตรการบางอย่าง ก่อนเศรษฐกิจจะเสียหายมากไปกว่านี้
ส่วนประเด็นวัคซีน หมอมนูญระบุว่า ตอนนี้มีคนไทยฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วประมาณ 16 ล้านคน ยังมีที่ไม่ได้ฉีดอีก 40-45 ล้านคน ซึ่งวิธีเดียวที่จะลดจำนวนผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตได้ คือการฉีดวัคซีน และต้องเร่งฉีดให้เร็วที่สุดภายใน 100 วันนับจากนี้ไม่ใช่รอจนถึงปลายปีหรือปีหน้า หมอมนูญแนะนำว่า ต้องปูพรมฉีด AstraZeneca ให้คนไทยอีก 40-45 ล้านคน ฉีดวันละ 5 แสนคน โดยโฟกัสที่วัคซีนเข็มที่ 1 ก่อน
เนื่องจากข้อมูลของฝ่ายสื่อสารบริษัท AstraZeneca ระบุว่าวัคซีน AstraZeneca 1 โดส มีประสิทธิภาพสูงในการลดการป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต ประกอบกับข้อมูลการใช้วัคซีนในประเทศแคนาดา พบว่าวัคซีน 1 โดส ป้องกันการเสียชีวิตที่เกิดจาก COVID-19 สายพันธุ์เดลตาได้ 87% และสายพันธุ์อัลฟา 90%
แต่หนึ่งปัญหาที่ประเทศเราเจอตอนนี้คือ วัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ส่งมอบได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของสถานการณ์ปัจจุบัน หมอมนูญเล่าว่าตัวเองเคยเขียนโพสต์เสนอให้รัฐบาลเจรจาต่อรองกับบริษัท AstraZeneca ให้ส่งมอบวัคซีนที่สั่งจองล่วงหน้าเร็วขึ้น แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะประเทศไทยจองวัคซีนล่วงหน้าในจำนวนน้อย และช้ากว่าประเทศอื่นๆ
ดังนั้นจึงเหลือทางเลือกอีกทาง คือ การเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ จำกัดการส่งออกวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ให้ประเทศอื่นๆ เพื่อนำมาให้คนไทยได้ฉีดก่อน
หมอมนูญกล่าวว่า ปัจจุบันสยามไบโอไซเอนซ์มีกำลังผลิตวัคซีนเดือนละ 10-15 ล้านโดส ซึ่งหากใช้ พ.ร.บ.จำกัดส่งออกวัคซีน จะทำให้ประเทศมีวัคซีน 30-45 ล้านโดสภายใน 3 เดือน ซึ่งหากมีวัคซีนจำนวนนี้ จะช่วยลดผู้ติดเชื้อที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิตไปได้มากกว่า 80% แม้จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ไม่ได้มากนัก แต่ก็ช่วยให้สถานการณ์สาธารณสุขดีขึ้นได้มาก
ซึ่งก่อนหน้านี้ ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ออกมาทำแคมเปญชวนคนไทยร่วมลงชื่อ เพื่อเรียกร้องให้รัฐใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนฯ เพื่อเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนให้ประเทศ ก่อนสถานการณ์จะร้ายแรงยิ่งกว่านี้
สำหรับใครต้องการเข้าร่วมแคมเปญดังกล่าว ดูรายละเอียดได้ที่ : www.change.org
อ้างอิงจาก
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2009524949214259&id=604030819763686
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/953668
https://www.komchadluek.net/news/regional/478444