ข่าวใหญ่ในวงการโควิด-19 ช่วงวันสองวันที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเฝ้าระวังโควิด-19 กลายพันธุ์ B.1621 หรือ มิว (MU) ก่อนจะยกระดับมาจัดให้อยู่ในกลุ่มของสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง (VOI) หลังพบการระบาดมากขึ้นในฝั่งยุโรป
สายพันธุ์ MU นั้นมีที่มาที่ไหนอย่างไร เราต้องระวังมากแค่ไหน The MATTER จะสรุปคร่าวๆ ให้ฟัง
โควิด-19 สายพันธุ์ MU เดิมทีคือสายพันธุ์ B.1.621 ก่อน WHO จะมาเปลี่ยนให้อยู่ในชื่อตัวอักษรกรีก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างน่ากังวล เพราะ WHO เคยพูดเป็นนัยๆ ไว้ว่า สายพันธุ์ใดก็ตามที่ยังไม่ถูกตั้งชื่อตามอักษรกรีกแสดงว่ายังไม่มีสัญญาณอันตราย
MU ถูกตรวจพบครั้งแรกในประเทศโคลัมเบียเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่จะมาเป็น MU มันถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์ B.1 และกลายพันธุ์เป็น B.1.621 โดยมีตำแหน่งการกลายพันธุ์คือ R346K, E484K, N501Y, D614G และ P681H ซึ่งการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง E484K และ N501Y เป็นการกลายพันธุ์ในตำแหน่งเดียวกับสายพันธุ์เบต้า และแกมม่า ส่วนการหลายพันธุ์ P681H นั้นเหมือนกับสายพันธุ์อัลฟ่า
การกลายพันธุ์ในตำแหน่งต่างๆ สร้างความกังวลใจให้กับผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมันอาจพัฒนาความสามารถในการหลบเลี่ยงแอนติบอดี ซึ่งส่งผลถึงประสิทธิภาพวัคซีนที่มีในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่มีการยืนยันชัดเจน และต้องรอศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
อีกหนึ่งประเด็นเกี่ยวกับ MU ที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญกังวลคือการเพิ่มสัดส่วนอัตราการแพร่เชื้อย่างต่อเนื่อง (อาจไม่ถึงกับเรียกได้ว่ารวดเร็ว เพราะการระบาดส่วนใหญ่สายพันธุ์เดลต้ายังจับจองอยู่) แต่ก็ใช่ว่าจะมองข้ามไปได้
นับตั้งแต่พบการระบาดในโคลัมเบียเมื่อเดือนมกราคม ก็เริ่มพบการระบาดในหลายๆ ประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เบลเยียม อิตาลี สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก สวีเดน ฯลฯ รวมถึงประเทศในเอเชียของเราอย่างญี่ปุ่นด้วย จนถึงตอนนี้มีประเทศที่พบสายพันธุ์ MU แล้วกว่า 39 ประเทศ และนี่เองเป็นสาเหตุที่ทำให้ WHO ตัดสินใจเพิ่มระดับการระมัดระวังสายพันธุ์ MU ให้กลายเป็นเป็น 1 ใน 5 สายพันธุ์ที่น่าจับตามองตัวล่าสุด ร่วมกับ Eta, Lata, Kappa และ Lambda
แม้ว่าปัจจุบันอัตราการแพร่เชื้อทั่วโลกของ MU จะยังต่ำกว่า 0.1% แต่ในประเทศโคลอมเบียมีอัตราการแพร่เชื้อสูงถึง 39% หรือ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อ ขณะที่เอกวาดอร์พบสัดส่วนการแพร่เชื้อราวๆ 13% ส่วนสหรัฐฯ พบการเชื้อกระจายของเชื้อตัวนี้ประมาณ 1%
แม้ WHO จะเพิ่งจัดให้ MU เป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง แต่ยุโรปเฝ้าระวังสายพันธุ์นี้มาตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากมีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวเสียชีวิต แม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ส่งผลให้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) ได้จัดให้สายพันธุ์ MU (หรือในเวลานั้นคือ B.1.621) เป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามองของยุโรป ตั้งแต่ก่อน WHO จะเคลื่อนไหวประเด็นนี้
และอีกหนึ่งคำถามที่สนใจคือ MU จะกลายมาเป็นภัยคุกคามใหม่แทนเดลต้าได้หรือไม่? รายงานการวิจัยที่เผยแพร่โดย PHE เมื่อเดือนสิงหาคม บอกไว้ว่า ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า MU จะเอาชนะเดลต้าได้ และดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มันจะแพร่กระจายเชื้อในวงกว้างระดับนั้น อย่างไรก็ตาม หากมันสามารถหลบเลี่ยงแอนติบอดีได้จริง ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแพร่ระบาดในอนาคต
อ้างอิงจาก
https://www.theguardian.com/…/who-monitoring-new…
https://www.ecdc.europa.eu/en/covid-19/variants-concern
https://fortune.com/…/mu-covid-variant-watchlist…/…
https://www.france24.com/…/20210901-new-coronavirus…
https://www.japantimes.co.jp/…/japan-coronavirus-mu…/