มันกลับมาแล้ว เหมือนเดิมเป๊ะ ไม่ถูกแก้เลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว
เรากำลังพูดถึง ‘ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ’ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2564 และส่งให้รัฐสภาพิจารณาต่อ แต่ถูกคัดค้านอย่างหนักทั้งจากแคมเปญ ‘#ไม่เอาพรบข้อมูลข่าวสาร อย่าให้รัฐปิดหูปิดตาประชาชน’ ของภาคีนักเรียนสื่อ ที่มีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 19,000 คน ขณะที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้จะทำให้ความโปร่งใสของภาครัฐเลวร้ายลงกว่าเดิม ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 และแย้งกับแผนปฏิรูปประเทศ
จน วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ต้องสั่งให้ถอนร่างกฎหมายฉบับนี้กลับมาทบทวนอีกครั้ง ในเดือน มิ.ย.2564 โดยมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นผู้รับผิดชอบ
ล่าสุด The MATTER ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวภายในทำเนียบรัฐบาลมากกว่าหนึ่งคนที่ระบุว่า การทบทวนร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว และผู้เกี่ยวข้องได้ส่งร่างแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ฉบับที่ผ่านการทบทวน “ซึ่งไม่ถูกแก้ไขเลยแม้แต่ตัวอักษรเดียว” กลับมาให้วิษณุพิจารณา และรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายได้ส่งกลับไปยังรัฐสภาเพื่อพิจารณาต่อไป “ครม.รับหลักการมาแล้ว จะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หลังจากนี้ก็ไปสู้กันในสภา”
แล้วร่างแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ฉบับประยุทธ์มีปัญหาอย่างไร?
เราขอสรุปสาระสำคัญบางอย่างให้อ่านกันแบบเข้าใจง่าย
- ร่างกฎหมายนี้ ทำขึ้นมาเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการ ฉบับปัจจุบันที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี 2540 โดยปรับปรุงให้ดีขึ้นบางส่วน เช่น กำหนดให้เปิดเผยข้อมูลบางอย่างไว้บนเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐด้วย จากที่เดิมเขียนไว้ว่าให้เปิดเผย ณ ที่ตั้งของหน่วยงานรัฐนั้นๆ (เพิ่มมาตรา 9/1) หากประชาชนยื่นขอข้อมูลต้องให้คำตอบว่าจะให้หรือไม่ให้ภายใน 30 วัน จากเดิมที่เขียนไว้กว้างๆ ว่า โดยเร็ว (แก้ไขมาตรา 11) แต่นั่นอาจเป็นข้อดีไม่กี่อย่างในร่างกฎหมายนี้
- แล้วข้อเสียมีอะไรบ้าง? ร่างกฎหมายนี้ให้ ‘ดุลยพินิจ’ หน่วยงานรัฐในการไม่ให้ข้อมูลแก่ผู้ขอ โดยดูจากพฤติกรรมของผู้ขอ เช่น ขอมาก/ขอบ่อย ก่อกวนการปฏิบัติงาน สร้างภาระเกินสมควร ใช้สิทธิโดยไม่สุจริต (เพิ่มมาตรา 11/1) ซึ่งอาจเป็นข้ออ้างให้หน่วยงานของรัฐใช้ปฏิเสธการให้ข้อมูลได้
- นอกจากนี้ ยังเพิ่มหมวด 1/1 ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารที่ห้ามเปิดเผยโดยเด็ดขาด ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ (เพิ่มมาตรา 13/1) และข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงหลายรายการ เช่น กำลังทหาร อาวุธ/ยุทธภัณฑ์ ฯลฯ (เพิ่มมาตรา 13/2 – 13/9) ซึ่งกำหนดรายการข้อมูลที่ห้ามเปิดเผยไว้อย่างละเอียด
- ข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงที่ห้ามเปิดเผยเลยในร่างกฎหมายนี้ จะต่างจากใน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เดิม ที่จะเปิดเผยหรือไม่ก็ได้ โดยดูจาก 3 ปัจจัย คือ การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์ของเอกชน
- ร่างกฎหมายซึ่ง ครม.ประยุทธ์เห็นชอบ ยังกำหนดโทษของการเปิดเผยข้อมูลในหมวด 1/1 ไว้ว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
นั่นคือสาระสำคัญโดยสรุปๆ เกี่ยวกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ซึ่งต้องไปว่ากันต่อในรัฐสภาว่าจะเห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้หรือไม่ หรือจะปรับแก้เนื้อหาส่วนใด ให้เปิดเผยข้อมูลมากขึ้นหรือเพิ่มการปกปิดข้อมูลไปอีก ก่อนจะนำมาใช้บังคับกับคนไทยทั้ง 70 ล้านคนต่อไป
ย้ำอีกทีว่า ร่างกฎหมายนี้ยังไม่ได้บังคับใช้ ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภาก่อน
ชวนติดตามต่อไปด้วยใจระทึก
– ดูเนื้อหาร่างแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ดังกล่าว ได้ที่: https://drive.google.com/file/d/1IpYNYbaaaq6iNqs5NlRG0gp85bp4d3Bk/view?usp=sharing
#Brief #TheMATTER