ข้อถกเถียงในประเทศเราเรื่องการจะกินหรือไม่กินเนื้อสัตว์ ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้นในรอบไม่กี่วันมานี้ และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งทางออก เพราะนักวิทยาศาสตร์ไอซ์แลนด์กำลังตัดต่อพันธุกรรมข้าวบาร์เลย์ ให้สามารถสร้างโปรตีนแบบเนื้อสัตว์ได้
ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก ORF Genetics ในประเทศไอซ์แลนด์ กำลังทำการทดลองตัดต่อพันธุกรรมของข้าวบาร์เลย์ เพื่อให้มันมีโปรตีนในเมล็ด และหลังจากโตเต็มที่ มันจะถูกเก็บเกี่ยว โม่ให้เป็นแป้ง และนำมาสกัด เพื่อให้ได้โปรตีนในการทำเนื้อสัตว์ขึ้นมา
โปรตีนในเมล็ดข้าวบาร์เลย์ ที่ถูกตัดต่อพันธุกรรมเหล่านี้ มีชื่อเรียกว่า “growth factor” ซึ่งมันจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ในการสร้างเนื้อจำลองจากห้องทดลอง แต่ต่างจากการทดลองโปรตีนเนื้อสัตว์จำลองทั่วไป เพราะ growth factor ทำขึ้นจากพืชอย่างข้าวบาร์เลย์โดยตรง
ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ปลูกข้าวบาร์เลย์ ซึ่งถูกตัดต่อพันธุกรรมในสามารถสร้างโปรตีนได้ บนพื้นที่ขนาด 22,000 ตารางนิ้ว ด้วยเทคโนโลยีการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ขั้นสูง ในห้องทดลองแบบปิด ที่จะมีการควบคุมสภาพดิน น้ำ อากาศ และสารอาหารที่ป้อนเลี้ยงให้แก่ต้นกล้าบาร์เลย์ทั้งหมด
โดยเทคโนโลยี growth factor ของพวกเขา เป็นพื้นฐานสำคัญเดิม สำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของทางบริษัท เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการพัฒนาให้ growth factor เป็นต้นกำเนิดของโปรตีนในเมล็ดข้าวบาร์เลย์ เพื่อใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ได้ในอนาคต
พวกเขาพยายามพัฒนาให้ growth factor สามารถจำลองเนื้อเยื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ ทั้งในรูปแบบของกล้ามเนื้อตลอดจนไขมันสัตว์ “จำนวนประชากรกำลังพุ่งสูงขึ้น และเราจะต้องให้ทุกคนมีอาหารกิน” อาร์นา รูนาร์สดอทเทียร์ ผู้อำนวยการเทคโนโลยีโปรตีนจาก ORF Genetics ระบุ
หากการพัฒนา ORF Genetics ทำได้สำเร็จ การใช้โปรตีนจากพืชจะช่วยลดการฆ่าสัตว์ลงได้จำนวนมาก รูนาร์สดอทเทียร์ ยังระบุเสริมอีกว่า การพัฒนาเนื้อในห้องทดลองไม่จำเป็นจะต้องฆ่าสัตว์ เพียงแต่อาศัยสเต็มเซลล์ของพวกมัน ในการนำมาต่อยอด เพื่อพัฒนาเนื้อสัตว์ในห้องทดลองต่อไป เพื่อลดมลภาวะให้แก่โลก รวมถึงการแสวงหาแหล่งอาหารใหม่ๆ ที่มีราคาถูกลง
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/av/technology-57850284
https://www.greenbyiceland.com/orf-genetics/
#Brief #TheMATTER