เปิดฉากแล้วสำหรับการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติครั้งที่ 26 หรือ COP26 ที่เหล่าผู้นำจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะมาหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นในทุกปี
สำหรับปีนี้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยก็เดินทางไปร่วมประชุมด้วย โดยเพจไทยคู่ฟ้าของรัฐบาล ก็ได้ปล่อยภาพนายกฯ ไปร่วมพูดคุยและทักทายกับเหล่าผู้นำประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และคนอื่นๆ อีกมากมาย
และในวันนี้ ประยุทธ์ยังขึ้นกล่าวแสดงทัศนะต่อประชาคมโลกในเวที COP26 ด้วย โดยนายกฯ ไทยระบุว่า มาร่วมประชุมวันนี้ ก็เพื่อยืนยันว่าประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างมากกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของภารกิจนี้ด้วยกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดของโลก
พร้อมระบุว่า ปัจจุบันไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียงประมาณ 0.72% แต่กลับติด 1 ใน 10 ของประเทศที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไทยตัดสินใจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเรื่องภูมิอากาศของสหประชาชาติที่กรุงปารีสเมื่อปี 2015 และเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ให้สัตยาบันเข้าเป็นภาคีของความตกลงปารีส
นายกฯ ประยุทธ์ยืนยันต่อที่ประชุมว่า คำมั่นสัญญาของไทยนั้นไม่ใช่คำมั่นที่ว่างเปล่า และที่ผ่านมาไทยได้ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยไทยได้กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในส่วนของพลังงานและขนส่งอย่างน้อย 7% ภายในปี 2020 แต่ในปี 2019 ไทยกลับลดไปได้ถึง 17% เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2 เท่า
“วันนี้ ผมมาพร้อมกับเจตนารมณ์ที่เป็นความท้าทายอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยจะยกระดับการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่และด้วยทุกวิถีทาง เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 หรือก่อนหน้านั้น” นายกฯ กล่าวพร้อมแสดงความมั่นใจว่าไทยจะสามารถยกระดับเป้าหมายการมีส่วนร่วมของประเทศ (NDC) ขึ้นเป็น 40% ได้ และจะทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิของไทยเป็น 0 ได้ภายในปี 2050
นายกฯ ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “สุดท้ายนี้ ผมคิดว่า หมดเวลาแล้วสำหรับความล้มเหลวอีก และโลกกำลังบอกเราว่า การประทุษร้ายธรรมชาติต้องยุติเพียงเท่านี้ เพื่อการดำรงไว้ซึ่งแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ และแหล่งอากาศ ที่ทุกคนต้องหายใจร่วมกัน ดังนั้น มนุษย์จะต้องมีความกล้าหาญ มีความชาญฉลาด มีการรู้คิด มีความอดทนสูงสุด เพื่อนำชัยชนะมาสู่ลูกหลานของเรา”
“ผมขอย้ำว่า เราทุกคนไม่มีแผนสองในเรื่องของการรักษาเยียวยาสภาพภูมิอากาศ เพราะเราจะไม่มีโลกใบที่สอง ซึ่งจะเป็นบ้านของพวกเราได้เหมือนโลกใบนี้อีกแล้ว”
อ้างอิงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=x2ix8Rhu1oA
#Brief #TheMATTER